ร้านเกมฝ่าฝืนเคอร์ฟิว  เปิดร้านหาเงินเลี้ยงครอบครัว

ร้านเกมฝ่าฝืนเคอร์ฟิว  เปิดร้านหาเงินเลี้ยงครอบครัว ลั่นถึงถูกจับแต่ก็ดีกว่าไม่มีกิน

         ที่จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ. แม่โจ้ ได้รับแจ้งเหตุมีร้านเกมเปิดให้บริการให้ลูกค้าเข้ามาเล่นเกมรวมถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในร้าน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่รับทราบเรื่องจึงได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าร้านเกมดังกล่าวมีการเปิดให้บริการจริง มีเครื่องคอมฯอยู่ 5 เครื่อง และมีวัยรุ่นอยู่ประมาณ 5 คนเข้ามานั่งเล่นอินเตอร์เน็ตและเล่นเกมกันภายในร้านเกม

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวทั้งเจ้าของร้านและกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาเล่นเกมทั้งหมด 5 คนเอาไว้ด้วย รวมทั้งเก็บยึดคอมฯเอาไว้เป็นของกลาง สำหรับในการดำเนินคดี  สำหรับร้านเกมแห่งนี้ มีพลเมืองดีโทรเข้าไปแจ้งเหตุว่ามีการเปิดให้วัยรุ่นเข้าไปใช้บริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งชาวบ้านกลัวว่าจะเป็นแหล่งมั่วสุมและเป็นสถานที่แพร่โควิด-19 ได้เพราะมีวัยรุ่นเข้าออกร้านทุกวันและเป็นจำนวนมาก

    ซึ่งเรื่องนี้ทางนักข่าวได้ลงพื้นที่ไปคุยกับเจ้าของร้านเกม ซึ่งภายในร้านเป็นหอพักและมีการแบ่งห้องเอากระจกมากั้นเอาไว้ เป็นกระจกสีทึบ และเมื่อมองเข้าไปด้านในก็เห็นโต๊ะเก้าอี้วางเรียงกันอยู่ 5 ตัว

เจ้าของร้านเกมที่ถูกแจ้งจับได้บอกกับนักข่าวว่า มีการเปิดให้เล่นเกมจริงแต่คนที่เล่นก็เป็นลูกหลานบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น และร้านเพิ่งเปิดให้เด็กวัยรุ่นเข้ามาเล่นเกมได้เพียงสองวันเท่านั้นเอง ที่สำคัญไม่ได้เปิดให้ที่นี่เป็นแหล่งมั่วสุมอย่างที่ชาวบ้านให้ข่าว

ซึ่งถูกจับก็ต้องหาเงินไปประกันตัวสองหมื่นบาท ที่ต้องเปิดให้เด็กเด็กแถวบ้านเข้ามาเล่นเกมนั้น ก็เพราะต้องการหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ตนเองก็มีลูกมีเมียที่ต้องดูแล  การเปิดให้ญาติกันเข้ามาเล่นเกมนี้ก็เป็นการหาเงินมาเสริมเพราะตอนนี้รายได้ที่เคยมีก็ลดลงตั้งแต่มีปัญหาเรื่องโควิด-19 โดยรายได้ในแต่ละวันนั้นได้เพียงแค่ประมาณ หนึ่งร้อยบาทเท่านั้นเอง และเจ้าของร้านเกมยังยืนยันว่าที่นี่ไม่ได้เป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 แน่นอน

เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็ใส่หน้ากากอนามัยและที่ร้านก็มีเจลล้างมือไว้ให้ลูกค้าได้ใช้ และที่ต้องยอมเสี่ยงเปิดร้านเกมนั้นก็เพราะว่า หากไม่ทำก็ไม่มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว หากไม่ทำก็จะอดตาย ดังนั้นยอมเสี่ยงถูกจับดีกว่าที่จะเห็นครอบครัวอดตาย

   เหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะทุกคนก็เกรงกลัวกฎหมายด้วยกันทั้งนั้น ถูกจับไปนอกจากจะต้องเสียเงินมาประกันตัวเองแล้วยังต้องติดคุกอีกด้วย แต่หากไม่ทำก็ไม่มีเงินมาเลี้ยงครอบครัวซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องรีบหาทางออกให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน