ลุงแท็กซี่โดนโซเชี่ยวแขวะ คิดมากจนเข้าโรงพยาบาล

ได้รับเงินบริจาคคืนเดียวแปดล้านสามแสนบาท ลุงแท็กซี่โดนโซเชี่ยวแขวะ คิดมากจนเข้าโรงพยาบาล

 หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีข่าวเกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่คันหนึ่งอายุประมาณ 72 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งลุงคนขับแท็กซี่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าตนเองได้รับผลกระทบอย่างมาก

ทุกวันนี้หาเงินไม่ค่อยได้เลย จากที่เคยมีผู้โดยสารและมีเงินเข้าต่อวันวันละเกือบหนึ่งพันบาทแต่ตอนนี้เงินแค่เพียงสามร้อยบาทกลับยังไม่ได้ โดยรถแท็กซี่คันที่ขับอยู่นี้ก็เช่าเป็นรายวันต้องจ่ายค่าเช่าทุกวันวันละ 300 บาทอย่าง

วันนี้ก็ยังไม่ได้ผู้โดยสารพอที่จะจ่ายค่าเช่าได้เลย ตอนนี้นอกจากขับรถแท็กซี่แล้วก็ต้องหาทางปรับตัวปรับช่องทางหาเงินด้วยการขับรถแท็กซี่ส่งของแทน เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้

ซึ่งบทสัมภาษณ์ในขณะนั้นลุงขับแท็กซี่พูดไปร้องไห้ไปเมื่อนักข่าวนำคำพูดของลุงขับแท็กซี่มาออกข่าวปรากฏว่าเพียงแค่หนึ่งคืนเท่านั้น ลุงขับแท็กซี่ได้รับการโอนเงินบริจาคเข้ามามากถึงแปดล้านสามแสนบาทด้วยกัน

ซึ่งล่าสุดคุณลุงขับรถแท็กซี่ปิดรับบัญชีเรียบร้อยแล้วโดยนักข่าวได้มีการโทรไปสอบถามเกี่ยวกับเงินที่ลุงขับแท็กซี่ว่าจะเอาเงินตั้งมากไปทำอะไร ซึ่งลุงขับแท็กซี่ก็ได้ฝากขอบคุณในความมีน้ำใจของทุกคนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้

โดยเงินแปดล้านสามแสนบาทที่ ลุงขับแท็กซี่ได้รับมานาน ลุงบอกว่าจะนำเงินไปสร้างบ้านเพราะตอนนี้ลุงเองยังไม่มีบ้านอยู่ และจะนำเงินที่เหลือไปบริจาคตามโรงพยาบาลต่างต่างเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ ที่เหลือก็จะบริจาคให้กับมูลนิธิคนขับแท็กซี่

เพราะคุณลุงเองก็เป็นคนขับรถแท็กซี่และบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์สำหรับดับไฟป่า ซึ่งในขณะที่นักข่าวสัมภาษณ์หลังจากได้เงินนั้นลุงขับแท็กซี่ก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งลุงเองบอกว่าที่อยากบริจาคให้คนอื่นบ้างนั้นเพราะทุกคนต่างก็เดือดร้อนเหมือนกัน

ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์นักข่าววันรุ่งขึ้นลุงขับแท็กซี่ก็เข้าโรงพยาบาล โดยทางเพื่อนบ้านได้บอกกับนักข่าวว่าลุงขับแท็กซี่ความดันขึ้น เพราะหลังจากได้เงินมาและเป็นข่าวดัง ก็มีคนเข้ามาเห็นใจและมีคนเข้ามาต่อว่าเรื่องการรับเงินบริจาคโดยมีบางคนมองว่าแค่ร้องไห้ผ่านทีวีก็เปิดรับเงินบริจาคแล้วก็ได้เงินไปใช้ฟรีๆ

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ลุงขับแท็กซี่เครียดมากจนความดันขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล โดยเพื่อนบ้านบอกกับนักข่าวว่าบ้านที่คุณลุงขับแท็กซี่อาศัยอยู่ตอนนี้เป็นบ้านเช่าไม่ใช่บ้านของลุงเอง