โครงการเราไม่ทิ้งกัน

        มีกระแสดราม่าอย่างต่อเนื่องกับโครงการเราไม่ทิ้งกันที่รัฐบาลตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อจะแจกเงินให้กับประชาชนเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่กำลังประสบปัญหาไม่มีเงินพอใช้จ่ายกันในขณะนี้ได้เงินเยียวยาที่ทางรัฐบาลจะให้นั้นมีการระบุเอาไว้ว่าให้เดือนละ 5,000 บาทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3 เดือนด้วยกัน

หลังตั้งแต่ประชาชนมีการลงทะเบียนเอาไว้ก็มีคนที่ได้รับเงินเยียวยาไปแล้วบางส่วนและบางส่วนก็ถูกปฏิเสธไม่ให้รับเงินเยียวยา ซึ่งปัญหาดราม่าเกิดมาจากสำหรับคนไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นทางระบบคัดกรองวิธีการคัดกรองข้อมูลอย่างไม่เป็นธรรม

และไม่ถูกต้องเพราะคนส่วนใหญ่ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เงินเยียวยา 5000 บาทนั้นพบว่ากลับเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากหลายคนมีเงินติดตัวไม่ถึง 100 บาทในขณะที่คนที่ได้รับเงินเยียวยาไปก่อนหน้านั้น 5,000 บาทกับเป็นกลุ่มคนที่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเป็นล้านๆและมีเงินไปทำเสริมสวย

ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบพบข้อมูลแบบนี้ก็ทำให้เกิดกระแสดราม่าเป็นอย่างมากจนในขณะนี้โครงการเราไม่ทิ้งกันยังไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนเพิ่มได้เลยซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการให้ประชาชนที่ยังอยู่ระหว่างการรอว่าจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ได้มาส่งข้อมูลเพิ่มโดยทั้งส่งเป็นสำเนาบัตรประชาชนส่งเป็นข้อมูลยืนยันเกี่ยวกับเรื่องอาชีพของตนเอง

จริงๆที่เป็นรูปถ่ายเลยให้ถ่ายหน้าร้านที่ตัวเองขายของอยู่รวมถึงให้ถ่ายอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ว่าทำอาชีพเกี่ยวกับอะไรซึ่งจะต้องมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในวันที่ 20 เมษายนและภายในวันที่ 22 เมษายนนี้โครงการเราไม่ทิ้งกันในก็จะมีการปิดโครงการไม่ให้ลงทะเบียนเพราะขณะนี้จำนวนผู้ลงทะเบียนมีมากจนเกินไป

ซึ่งถ้าดูแล้วรัฐบาลแทบจะไม่มีงบประมาณนำมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนนั่นเองโดยก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาก็ได้มีการออกมาประกาศว่าเงินเยียวยานั้นเพียงพอที่จะจ่ายในกรณีแค่คนละ 5000 บาทเท่านั้น

ส่วนหลังจากนี้จะต้องรอเงินกู้ซึ่งต้องรอการอนุมัติจาก  พ.ร.ก.ฉุกเฉินตึกก่อนซึ่งภายหลัง ทางโฆษกของนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาแก้ข่าวว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดจริงๆแล้วทางรัฐบาลมีเงินที่จะช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้วซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ 

สำหรับโครงการนี้เท่าที่ดูแล้วแทบจะไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริงเลยเพราะทุกคนต่างก็ได้รับความเดือดร้อนกันทั้งสิ้นเอาเข้าจริงๆทางรัฐบาลควรจะพิการแต่ก็คนโดยที่ไม่ต้องมาสร้างเงื่อนไขให้วุ่นวายกันอยู่อย่างนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำนั่นก็คือการดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ซึ่งถ้าหากไม่สามารถแจกเงินได้ถึง 15,000 บาทก็สามารถเฉลี่ยเงินออกมาคนละ  10000 บาทต่อครัวเรือนก็ได้เพื่อที่จะได้รับเงินเยียวยากันทุกครัวเรือนอย่างทั่วถึงโดยสามารถดูรูปแบบได้จากประเทศสิงคโปร์ที่เขามีการดูแลประชาชนของเขาอย่างทั่วถึงนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sexybaccarat