คุณพ่อเตือนภัย กินเค้กต้องระวัง หลังจากลูกสาว 2 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะกินเค้กวันเกิด 

คุณพ่อเตือนภัย กินเค้ก  มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว  มิร์เรอร์  เมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 

โดยหัวข้อข่าวนะมีการระบุว่ามีคุณพ่อคุณแม่คู่หนึ่งได้ออกมาเตือนภัยหากใครก็ตามที่มีการซื้อเค้กให้กับบุตรหลานของตนเองกินให้ระมัดระวังให้ดีเพราะการกินเค้กนั้นอาจจะทำให้บุตรหลานของคุณได้รับอันตรายก็ได้เช่นเดียวกันเนื่องจากว่าครอบครัวของเขานั้นประสบปัญหาลูกของเขาทั้งสองคนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากกินเค้กวันเกิดเข้าไป 

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณพ่อรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยผ่านทาง Social Media เป็นการเตือนภัยให้กับผู้ปกครองนั้นให้ระมัดระวังเรื่องของอาหารการกินโดยเฉพาะเค้กซึ่งถือว่าเป็นขนมที่เด็กๆชอบมากและหลายคนคงไม่คิดว่าเค้กนั้น

จะมีอันตรายกับคนที่กินเข้าไปได้แต่คุณพ่อรายนี้ยืนยันว่าการกินเค้กนั้นก็สามารถสร้างอันตรายให้กับเด็กๆได้เช่นเดียวกัน

          โดยเล่าถึงเรื่องราวของลูกสาวของตนเองโดยระบุว่าเขาได้ไปซื้อเค้กมาให้ลูกสาวเนื่องจากว่าเป็นวันเกิดของลูกสาวซึ่งแน่นอนว่าเค้กนั้นมีการประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามหลังจากที่ลูกสาวของเขากินเค้กเข้าไปได้ไม่นานก็เกิดอาการไม่สบายจนต้องพาลูกมาที่โรงพยาบาลและหลังจากที่คุณหมอได้มีการเอกซเรย์ก็พบว่าในท้องของลูกสาวของเขานั้นมีโลหะชนิดหนึ่งอยู่ภายใน

           ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าโลหะชนิดนี้ถูกผสมมาอยู่ในเค้กโดยทางร้านที่ทำเค้กขายนั้นได้เอาแท่งโลหะ

ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากติดไว้กับลูกกวาดที่ใช้ในการตกแต่งเค้กเพื่อต้องการยึดให้ลูกกวาดเหล่านั้นไม่ตกหล่นแต่ในขณะเดียวกันทั้งร้านเค้กก็ไม่ได้มีการแจ้งกับผู้ปกครองของเด็กว่าได้มีการนำเอาแท่งโลหะยึดผสมอยู่ภายในเนื้อเค้กทำให้ผู้ปกครองรวมถึงตัวเด็กเองคิดว่าเค้กนั้นสามารถกินได้ทุกชิ้นจึงไม่ได้เกิดระมัดระวังและกินชิ้นส่วนของโลหะเข้าไปโดยที่ไม่รู้ตัวจนเกิดเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น

        อย่างไรก็ตามคุณพ่อรายนี้ระบุว่าโชคดีที่เขาพาลูกสาวของเขานั้นไปรักษาอาการได้ทันทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้มีการดูแลเด็กจนในขณะนี้มีอาการปลอดภัยและอยู่ในสภาวะเป็นปกติเรียบร้อยแล้วแต่ยังคงต้องเฝ้าระมัดระวังก่อนที่จะมีการพากลับบ้านได้ดูวิธีการรักษาของคุณหมอนัดคุณหมอจะให้เด็กถ่ายออกมาเองตามธรรมชาติ

   หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดอันตรายกับลูกของตนเองเกิดขึ้นคุณพ่อตานี้จึงได้มีการมาพบผ่านทาง Social เพื่อเป็นการแจ้งเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังไม่ว่าจะเป็นขนมเค้กหรือขนมชนิดอื่นๆหากมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่ามีการนำส่วนผสมที่ไม่สามารถกินได้แสงเข้าไปอยู่ในขนมเหล่านั้นหรือไม่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกหลานของตนเอง

 

สนับสนุนโดย.    ubett

หนุ่มโพสต์ถามโซเชียล ผิดไหม กินชาบูแล้วเอาน้ำดื่มที่เหลือกลับ หลังถูกแฟนต่อว่า

      กินชาบูแล้วเอาน้ำดื่มที่เหลือกลับ  เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปทานอาหารที่ร้านอาหาร  ต้องเคยเจอกับสภาพที่สั่งเครื่องดื่มมาเป็นขวดแล้วอาจจะยังไม่ทันได้กินแต่อิ่มซะก่อนซึ่งบางคนนั้นเลือกที่จะหยิบเครื่องดื่มนั้นออกมาจากร้านด้วยแต่ก็มีหลายคนที่เลือกที่จะวางเครื่องดื่มนั้นไว้ภายในร้านถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้เปิดดื่มหรือถึงแม้ว่าเราจะมีการจ่ายเงินไปแล้วก็ตาม

  ซึ่งการที่เราจะเลือกหยิบเครื่องดื่มออกมาหรือไม่หยิบเครื่องดื่มออกมานั้นเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของแต่ละคนและทางร้านเองก็ไม่ได้มีการระบุข้อห้ามเอาไว้อย่างแน่นอนเนื่องจากว่าลูกค้าได้มีการจ่ายเงินไปแล้วจึงเป็นสิทธิ์ของลูกค้าที่จะเอาเครื่องดื่มที่จ่ายเงินแล้วออกนอกร้านได้ 

         อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 31 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งโพสต์ข้อความถามความคิดเห็นลงใน Pantip เนื่องจากว่าเขาถูกแฟนสาวต่อว่าหลังจากที่เขาและแฟนสาวได้พากันไปกินชาบูที่ร้านชาบูแห่งหนึ่ง  โดยชายหนุ่มรายนี้ได้มีการสั่งน้ำอัดลมไปทั้งหมด 2 ขวดแต่เมื่อกินชาบูอิ่มแล้ว

ปรากฏว่ามีการเปิดกินน้ำอัดลมไปเพียงแค่ขวดเดียวเท่านั้นซึ่งอีกขวดนึงยังไม่ได้มีการเปิดกินแต่ชายหนุ่มรายนี้ได้มีการจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว  ทำให้เขาตัดสินใจหยิบขวดน้ำอัดลมเพื่อจะนำกลับไปกินบนรถระหว่างทางกลับบ้าน

           อย่างไรก็ตามแฟนสาวของเขากลับไม่พอใจและไม่ยอมให้เขาหยิบขวดน้ำอัดลมขวดดังกล่าวออกจากร้านโดยอ้างว่าไม่มีใครทำการและเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างมากนอกจากนี้แฟนสาวของเธอยังแสดงท่าทีว่ารู้สึกอายกับพฤติกรรมของเขาอีกด้วย  อย่างไรก็ตามในความคิดเห็นของชายหนุ่มเขามองว่าเขาได้เสียเงินจ่ายตังค์ไปแล้ว    

          ที่สำคัญน้ำอัดลมก็เป็นสิทธิ์ของเขาและน้ำอัดลมก็ยังไม่ได้มีการเปิดกินซึ่งยังมีปริมาณเต็มขวดและเขามีสิทธิ์ที่จะนำน้ำอัดลมดังกล่าวออกไปจากร้านได้ ทำให้เขานั้นเกิดความสงสัยว่าพฤติกรรมของเขานั้นผิดหรือไม่แล้วคนอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรจึงได้มีการนำมาโพสต์ถามชาวโซเชียลในพันทิปนั่นเอง 

          หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็มีชาวโซเชียลเข้ามาตอบกระทู้กันมากกว่า 200 comment กันเลยทีเดียวโดยส่วนใหญ่มองว่านมเจ้าของโพสต์นั้นไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทุกคนก็ทำกัน   กริลแอร์   เพราะมีการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วและที่สำคัญน้ำอัดลมก็ยังเหลืออยู่เต็มขวดแต่ถ้าหากว่าน้ำอัดลมเหลือเพียงแค่นิดหน่อยก็ไม่ควรที่จะหยิบออกมา เพราะมันจะดูว่าเจ้าของโพสต์งกจนเกินไป 

         ส่วนทางด้านแฟนสาวที่รู้สึกอับอายนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าครอบครัวของเธอมีการสั่งสอนมาเกี่ยวกับเรื่องของการทานอาหารนอกบ้านว่าไม่ให้เอาของที่ร้านกลับก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามชาวโซเชียลส่วนใหญ่มองว่าการหยิบของเหลือกลับบ้านนั้น สามารถทำได้ซึ่งไม่ใช่ความผิดร้ายแรง

สาวโพสต์แฉ เดตแรกฝ่ายชายไม่เลี้ยงทั้งที่เธอไม่ได้พกเงินไป 

ดตแรกฝ่ายชายไม่เลี้ยง   มีเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา    โดยหญิงสาวรายนี้มีโพสต์เล่าเรื่องราวของเธอผ่านทาง Social โดยมีการนำไปโพสต์ไว้ใน  Application tiktok  เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2564

ซึ่งหลังจากที่โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอออกไปนั้นปรากฏว่ามีผู้คนเป็นจำนวนมากเข้ามาอ่านข้อความและมีการพักการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งนี้มีคนเข้าไปดูคลิปที่เธอโพสต์มากถึง 5.4 ล้านครั้งแล้วและมีการ Comment  กันสนั่นหวั่นไหวเลยทีเดียว    

        สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวคนดังกล่าวเธอเล่าว่าตัวเธอนั้นได้มีการรู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่งและมีการนัดออกเดทกัน  ซึ่งถือว่าเป็นเดทแรกระหว่างเธอกับฝ่ายชาย  ทั้งคู่นัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง fresno  รัฐแคลิฟอร์เนีย 

  อย่างไรก็ตามปัญหาที่เธอออกมาโพสต์เล่าในติ๊กต๊อกนั้นก็คือเมื่อมีการสั่งอาหารปรากฏว่าเธอไม่ได้มีการเตรียมเงินไปด้วยแต่ฝ่ายชายก็ไม่ได้สนใจเพราะฝ่ายชายนั้นสั่งอาหารมากินคนเดียว

        โดยเธอได้มีการถ่ายคลิปในช่วงเวลาดังกล่าวมาโพสต์ใน tiktok ด้วยจะเห็นได้ว่าบนโต๊ะอาหารนั้นมีอาหารเฉพาะที่บริเวณด้านหน้าของฝ่ายชายส่วนบริเวณหน้าด้านของฝ่ายหญิงนั้นไม่มีอาหารทำให้หลังจากที่จบเดชนี้แล้วเธอก็ออกมาโพสต์ใน Application tiktok และถามว่าเธอยังควรที่จะคบหากับชายคนนี้ต่อไป

หรือไม่และเธอควรที่จะไปเดทกับเขาเป็นครั้งที่สองต่อหรือไม่ซึ่งเธอระบุว่าทางที่ฝ่ายชายหรือว่าเธอไม่มีเงินจ่ายแต่เขาก็ไม่สนใจเธอเลย    

         อย่างไรก็ตามสำหรับ Comment ของชาวโซเชียลนั้นมีการระบุว่าการที่ไปเดทนั้นควรจะต้องมีการจ่ายใครจ่ายมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเดทแรกเกิดควรที่จะต้องรอให้ไฟใช้จ่ายอย่างเดียวเพียงเท่านั้นและจากประสบการณ์ในครั้งนี้เธอเชื่อว่าฝ่ายชายเองก็อาจจะไม่อยากจะมาเดทกับครั้งที่ 2 กับเธอก็ได้    

      หลายคนในโลกออนไลน์มองว่าพฤติกรรมของหญิงสาวนั้นเป็นพฤติกรรมที่หวังไปกินฟรีเพราะไม่เช่นนั้นเธอคงจะพกเงินไปด้วยถึงแม้ว่าเมื่อไปถึงสั่งอาหารแล้วฝ่ายชายจะเลี้ยงอาหารเธอนั้นก็จะเป็นอีกเรื่องนึงแต่การที่เธอตั้งใจที่จะไม่พกเงินไปเลยนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนมองว่าปัจจุบันนี้

การไปเดทกันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้ฝ่ายชายเลี้ยงอย่างเดียวควรที่จะต้องแชร์เงินกันถึงจะเป็นการยุติธรรม  เพราะแต่ละคนนั้นอาจจะมี สภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นไม่ควรคาดหวังว่าจะให้ฝ่ายชายเลี้ยงเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยออนไลน์ Huaydee

หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี ถูกสุนัขกัดปาก  หลังเมาแล้ว ไปด่าหมา

    หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี ถูกสุนัขกัดปาก     เมื่อวันที่ 9 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในซอยพุทธบูชา 36 ซึ่งเป็นบ้านเช่าได้เกิดอุบัติเหตุเจ้าของบ้านเพศชายวัย 55 ปีถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กัดเข้าบริเวณที่ปากจนได้รับบาดเจ็บ  ซึ่งภรรยาของผู้บาดเจ็บได้มีการโทรตามกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ   

อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บนั้นนั่งอยู่ภายในบ้านโดยรอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยทำการประถมพยาบาลให้  ซึ่งผู้บาดเจ็บนั้นมีอาการเลือดออกตรงบริเวณปากโดยสภาพมีลักษณะเหมือนกับปากฉีก

       จากคำให้การของภรรยาของผู้บาดเจ็บให้การว่าผู้บาดเจ็บนั้นเป็นสามีของเธอถูกสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้เป็นสุนัขพันธุ์ทางชื่อเจ้าตูบกัดเข้าไปที่บริเวณปากจนเป็นแผลฉกรรจ์  ชื่อสุนัขตัวดังกล่าวนั้นทางภรรยาผู้บาดเจ็บมีการเลี้ยงเอาไว้มานานหลายปีแล้วซึ่งอยู่กับเธอก่อนที่จะมีการมาอยู่กินครบหากับผู้บาดเจ็บด้วยซ้ำไปซึ่งก็นับโดยอายุปีแล้วก็อยู่กับเธอมานานถึง 12 ปีแล้วนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บระบุว่าโดยปกติแล้วเจ้าตูบสุนัขที่เธอเลี้ยงเอาไว้นั้นมีพฤติกรรมและนิสัยไม่ได้ก้าวร้าวไม่ได้ใช้ความรุนแรงและไม่เคยกัดใครมาก่อนหมาของเธอนั้นเป็นหมาที่ค่อนข้างน่ารักและเชื่อฟังซึ่งเธอมั่นใจว่าสาเหตุที่หมาของเธอกัดปากสามีของเธอนั้นน่าจะเกิดจากการที่สามีของเธอด่าทอหมาพบเมื่อสามีของเธอดื่มสุรานั้นก็มักจะชอบโวยวายอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว  

       อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บยืนยันว่าเธอไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่สุนัขกัดปากสามีของเธอเนื่องจากว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเธอไปซื้อของที่ตลาดจึงได้เพียงแค่สันนิษฐานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะหลังจากกลับมาบ้านเธอเห็นสามีของเธออยู่ในอาการเมาสุรา  และไม่มีการสอบถามสามีผู้บาดเจ็บก็ตอบเพียงแค่ว่าไม่ได้ทำอะไรนอนอยู่แล้วหมาก็เดินมากับเฉยๆซึ่งเธอไม่เชื่อว่ามาของเธอนั้นจะมีพฤติกรรมดังกล่าว

       อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บยืนยันว่าโดยปกติแล้วถ้าหากผู้บาดเจ็บนั้นกินเหล้าเมาแล้วมักจะเริ่มรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบไปหยอกหมาจึงทำให้เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ก็น่าจะเกิดจากการที่สามีของเธอนั้นอยากมาด้วยอาการรุนแรงทำให้มันไม่พอใจและกระโดดกัดปากของสามีเธอนั่นเอง

ซึ่งยืนยันว่าเธอจะยังคงเลี้ยงหมาตัวนี้อยู่เพราะเธอรักเหมือนลูกแต่เธอนั้นจะดูแลให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อีกซ้ำสองซึ่งหลังจากนี้เธอยืนยันว่าเธอจะไปหาซื้อตะกร้อครอบปากเอาไว้มาใส่สุนัขของเธอเพื่อไม่ให้สุนัขของเธอนั้นไปกลับหรือไปทำร้ายชาวบ้านคนอื่น 

 

สนับสนุนโดย.     agplus

ชาวบ้านร้องเรียนปลัดบุรีรัมย์ถูกหมาพิตบูลกัด ไปส่องดูพบเป็ฯพันธุ์ เฟรนซ์บลูด็อก

    ชาวบ้านร้องเรียนปลัด  ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อำเภอลำปลายมาศ  จังหวัดบุรีรัมย์   ได้มีการส่งเอกสารร้องเรียนไปยังอำเภอและส่งเรื่องถึงปลัด อบต.หนองคู   เกี่ยวกับลูกบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นคนที่มาเช่าอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านได้มีการเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัวเป็นสีขาวกับสีดำแล้วปล่อยให้สุนัขออกมากัดชาวบ้านในหมู่บ้าน   ซึ่งในขณะนี้มีชาวบ้านถูกตัดไปแล้ว 2 คน 

        โดยชาวบ้านที่มาร้องเรียนนั้นระบุว่าหมาที่กัดนั้นเป็นพันธุ์พิทบูล  โดยในขณะนี้คนในหมู่บ้านต่างก็พากันหวาดกลัว  จึงได้พากันทำเรื่องให้ทางอำเภอช่วยประสานงานพูดคุยกับทางเจ้าของบ้านให้ควบคุมของสุนัขตนเองให้ดีอย่าปล่อยให้ออกมาสร้างความเดือดร้อน   

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ปลัด อบต. หนองคู   ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอำเภอลำปลายมาศทราบเรื่องราวดังกล่าวก็ได้มีการลงพื้นที่ทันทีพร้อมกันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปศุสัตว์ประจำจังหวัดไปด้วย   เมื่อไปถึงหมู่บ้านดังกล่าวทางปลัด อบต.รวมถึงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็แวะไปเยี่ยมคนบาดเจ็บทั้งสองหลัง 

  โดยคนแรกนั้นถูกกัดขนาดขี่รถจักรยานออกกำลังกายในสวนสาธารณะของหมู่บ้านในขณะที่อีกคนนึงนั้นถูกกัดขณะที่ออกมาทิ้งขยะหน้าบ้านของตนเอง

    อย่างไรก็ตามจากบาดแผลที่เห็นพบว่าเป็นเพียงแค่รอยข่วนเล็กๆไม่ใช่รอยกลับลึก   ซึ่งหลังจากที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยแล้วทางด้านปลัด อบต. และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็ได้ไปบ้านเจ้าของสุนัขพันธุ์พิทบูล  เมื่อเดินทางไปถึงบ้านที่เลี้ยงสุนัขพบว่าสุนัขที่เลี้ยงอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวนั้นไม่ใช่พันธุ์พิทบูลแต่เป็นสายพันธุ์ เฟรนซ์บลูด็อก  ซึ่งโดยปกติแล้วสายพันธุ์นี้จะเป็นสายพันธุ์น่ารักเข้ากับคนได้ง่ายขี้เล่นและไม่มีนิสัยดุร้าย

     อย่างไรก็ตามเมื่อทางปลัด อบต. ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของบ้าน พบว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวนั้นเป็นของเพื่อนซึ่งขณะนี้เดินทางไปทำงานต่างอำเภอทางด้านปลัด อบต. จึงได้มีการต่อสายคุยกับเจ้าของสุนัขโดยตรงโดยเจ้าของสุนัขยืนยันว่ามาของเขานั้นไม่ได้มีการดุร้ายแต่เพื่อความสบายใจของเพื่อนบ้านเขาจะนำสุนัขทั้ง 2 ตัวกลับไปไว้ที่จังหวัดยโสธรซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเขาเอง

      เบื้องต้นเจ้าของสุนัขยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่องว่าสุนัขของตนเองนั้นไปกับเพื่อนบ้านและถ้าหากสุนัขของเขากัดจริงก็จะมีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ยืนยันว่าจะรับผิดชอบอย่างแน่นอน   ซึ่งทางด้านปลัด อบต. หนองคู ได้ทำการเรียกตัวเจ้าของสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกและชาวบ้านที่ถูกสุนัขกัดทั้ง 2 รายเตรียมนัดวันเพื่อที่จะได้ตกลงเจรจากันอีกครั้งหนึ่งและเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง 

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี

เด็ก 7 ขวบขับรถแทรกเตอร์ไถนาช่วยครอบครัว

        เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนปีพศ 2563    มีนักข่าวจากสำนักงานดังได้ไปทำข่าวที่จังหวัดจันทบุรีเนื่องจากว่ามีชาวบ้านร่ำลือกันว่าที่ตำบลคลองพลูนี้ที่หมู่บ้านตาเรียวมีเด็กอัจฉริยะคนนึงอายุแค่เพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้นก็สามารถขับรถได้หลายชนิดด้วยกัน

และเมื่อนักข่าวลงพื้นที่ได้เห็นกับตาตัวเองเด็กชายคนดังกล่าวก็ทำการขับรถโชว์ให้นักข่าวเห็นไม่ว่าจะเป็นรถแทรกเตอร์ไถนาหรือแม้แต่รถกระป๊อเพิ่งถึงรถแบคโฮก็ยังมีการขับโชว์ให้ดูซึ่งความสามารถของเด็กวัย 7 ขวบนั้นสามารถขับได้โดยที่เหมือนกับผู้ใหญ่ขับเลยทีเดียวสำหรับเด็กชายคนดังกล่าวนั้นชื่อว่าน้องเบ็นเท็นอายุแค่เพียง 7 ขวบเท่านั้น

ซึ่งพ่อของน้องเบ็นเท็นบอกว่าน้องเบ็นเท็นนั้นมีความสามารถในการขับรถมาตั้งแต่อายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้นซึ่งสมัยก่อนนั้นน้องเบ็นเท็นอยากขี่จักรยานเมื่อซื้อให้น้องก็สามารถขี่จักรยานเองได้เลยโดยที่ไม่มีใครสอนและต่อมาน้องเบ็นเท็นก็ขยายความสามารถมาเป็นขับรถขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้น้องเบ็นเท็นอายุ 7 ขวบ

ก็สามารถขับรถยนต์ได้ทุกชนิดรวมถึงขับรถไถนาได้ทุกชนิดแรกๆครอบครัวของน้องเบ็นเท็นไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่นั้นไม่มีใครกล้าที่จะนั่งรถเหมือนคนขับเลยแต่เมื่อเวลาผ่านไปเห็นว่าน้องเบ็นเท็นนั้นสามารถที่จะขับรถได้อย่างชำนาญจึงทดลองนั่งแล้วก็ตั้งแต่ให้น้องขับมาน้องก็ไม่เคยขับรถพาไปประสบอุบัติเหตุอะไรเลย

ซึ่งเรื่องราวของน้องเบ็นเท็นในครั้งนี้จึงเป็นที่กล่าวขานของคนในหมู่บ้านว่าน้องนั้นเป็นอัจฉริยะเรื่องของการขับรถและมีความรอบรู้ในเรื่องของเครื่องจักรเครื่องยนต์เป็นอย่างดียังไงก็ตามพ่อของน้องเบ็นเท็นได้กล่าวกับนักข่าวว่าทุกอย่างที่น้องเป็นแทนคำนั้นจะอยู่ในสายตาของพ่อแม่ตลอดเพราะเกรงว่าเดี๋ยวคนอื่นในหมู่บ้านจะเอาไปทำตามแล้วอาจจะเกิดอันตรายได้

           เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไปทำให้หลายคนสงสัยว่าการที่ปล่อยให้น้องเบ็นเท็นนี้มาปีนรถที่มีความสูงมากซึ่งผู้ใหญ่บางคนยังไม่สามารถทำได้แต่เด็กอายุแค่ 7 ขวบทำได้นี้จะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่เพราะจริงๆแล้วเด็กสามารถที่จะขับรถได้หากมีการถูกสอน

แต่ในทางเป็นจริงเวลาที่เกิดเรื่องขำขันเกิดขึ้นหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนั้นการตัดสินใจของเด็กนั้นจะตัดสินใจได้ไม่ดีกว่าผู้ใหญ่แน่นอนดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่เขามีกฎหมายออกมาคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องของการไม่ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

ขับรถเพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าหากมีการฝึกอย่างชำนาญก็จะสามารถขับรถได้แต่เมื่อถึงภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมานั้นเด็กด้วยคนนะสมบัติของความคิดของเด็กนั้นยังไม่ได้มีการพัฒนามากนักการตัดสินใจต่างๆนั้นจึงเป็นไปได้ยากและไม่รวดเร็วเพียงพอซึ่งจะนำมาแต่อันตรายต่อตัวเด็กเองหรือยังคนอื่นเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

 

สนับสนุนโดย.    u12

ตำรวจบุกจับ โรงฆ่าสัตว์เถื่อนที่จังหวัดสระบุรี

 

         เมื่อวันที่ 28 เดือนธันวาคมปีพศ 2563  ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตํารวจในอำเภอหนองแคได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านให้ช่วยไปทำการตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในอำเภอหนองแค  ที่อยู่บริเวณตำบลโพนทอง  เนื่องจากว่าชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าโรงฆ่าสัตว์ต่างๆนั้นจะเป็นโรงฆ่าสัตว์เถื่อน 

       สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงฆ่าสัตว์ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจึงไปทำการร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาตรวจสอบรองเท้าสตั๊ดดังกล่าว โดยชาวบ้านบอกว่าโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวนั้นมีการทิ้งซากสัตว์เอาไว้เกลื่อนกลาดโดยที่ไม่เก็บให้สะอาด

          และที่สำคัญเสียงของสัตว์เวลาที่ถูกเชือดร้องโหยหวนสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านมากและยังมีกลิ่นเหม็นคาวทั้งจากซากศพของสัตว์และตั้งจากคาวเลือดที่สำคัญชาวบ้านไม่มีความมั่นใจว่า โรงฆ่าสัตว์แห่งนั้นได้มาตรฐานหรือไม่ และชาวบ้านยังพากันบ่อยกลัวว่าโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและอาจทำให้เกิดโรคระบาดซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเพาะเชื้อโรคจากตัดไปสู่คนก็เป็นไปได้

         อย่างไรก็ตามหลังตาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวพบว่าเป็นโรงฆ่าสัตว์เถื่อนจริงๆไม่มีใบอนุญาตในการขอเปิดเป็นโรงฆ่าสัตว์และยังเคยมีประวัติว่าโรงฆ่าสัตว์ต่างๆนั้นเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาแล้ว 1 ครั้งซึ่งในครั้งนั้นถูกจับกุมเมื่อช่วงประมาณปีพศ 2559   หลังจากนั้น ก็มีการเว้นระยะไปช่วงหนึ่งแล้วกลับมาเปิดกิจการต่อ  ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าโรงฆ่าสัตว์ต่างๆค่อนข้างที่จะไม่ได้มาตรฐานและไม่มีการทำลายซากสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะที่ดี

        เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมทั้งแรงงานรวมถึงเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าว  โดยจะต้องมีการเรียกเก็บค่าปรับในโทษฐานการทำความผิดกฎหมายและอาจจะมีการสั่งจำคุกอีกด้วย

           อย่างไรก็ตาม  การที่มีการเปิดโรงฆ่าสัตว์ไม่ได้มาตรฐานเมื่อนำเนื้อสัตว์ออกไปขายก็อาจจะทำให้ประชาชนที่ซื้อเนื้อสัตว์ไปรับประทานเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพร่างกายและได้รับอันตรายจากการที่ซื้อเนื้อสัตว์ไปบริโภคก็เป็นไปได้ดังนั้นประชาชนคนไหนทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและเป็นโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็สามารถที่จะมีการแจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะจะมีกฎหมายคุ้มครองเกี่ยวกับด้านปศุสัตว์เอาไว้

         สำหรับการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์เถื่อนนั้นปัจจุบันนี้มีการสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเรียกว่า Application dld 4.0 หรือจะโทรแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจใกล้บ้านก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานแหล่งผลิตอาหารที่ได้คุณภาพและปราศจากเชื้อโรค

 

สนับสนุนโดย.   ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

นายกสั่งกระทรวงศึกษาธิการ เปลี่ยนรูปแบบการเรียนให้ลดการบ้านและเรียนน้อยลง

                    เกี่ยวกับแผนปรับปรุงระบบการศึกษาของไทยซึ่งมีกระทรวงศึกษาธิการคอยเป็นผู้ดูแลและควบคุมอยู่ได้มีการถูกสั่งการมาจากนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันให้มีการวางแผนการจัดการดูแลนักเรียนในรูปแบบการศึกษาแบบใหม่

โดยทางด้านนายกรัฐมนตรีอยากจะให้โรงเรียนนั้นออกแบบการเรียนการสอนใหม่ซึ่งหวังว่าการเรียนการสอนใหม่ในปัจจุบันนั้นจะเป็นการลดการบ้านให้กับเด็กนักเรียนอีกทั้งยังต้องการให้มีการปรับเวลาในการเข้าเรียนให้น้อยลงจากเดิม

ซึ่งทั้งนี้ความต้องการเหล่านี้ทั้งด้านนายกรัฐมนตรีได้มีการส่งแผนงานไว้ให้กับกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาลองศึกษาหาข้อมูลว่าจะสามารถดำเนินการตามความต้องการนี้ได้หรือไม่

และนับตั้งแต่ที่ทางกระทรวงศึกษาธิการได้รับแผนงานนี้มาก็ได้มีการมอบหมายให้กับหน่วยงานต่างๆได้ลองพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่โดยส่วนหนึ่งนั้นอาจจะต้องมีการเรียกประชุมคณะคุณครูตามโรงเรียนใหญ่ๆ

ในเขตกรุงเทพฯเป็นหลักซึ่งโรงเรียนเหล่านี้จะเป็นโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนเป็นรูปแบบเน้นมุ่งหวังให้เด็กนักเรียนนั้นนำความรู้ความสามารถไปแข่งขันกับโรงเรียนอื่นๆได้ดังนั้นโรงเรียนเหล่านี้มักจะมีการสั่งการบ้านให้นักเรียนทำใน

แต่ละวันเป็นจำนวนมากอีกทั้งการเรียนการสอนก็จะมีการจัดตารางการสอนให้นักเรียนแบบเป็นคาบเรียนในแต่ละวันซึ่งกลุ่มโรงเรียนเหล่านี้จะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงและนักเรียนที่มาเรียนโรงเรียนเหล่านี้ก็มีความคาดหวังว่าจะได้ความรู้เต็มทั้งวันที่มีการเข้าเรียนดังนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการอาจจะต้องมีการเรียกประชุมโรงเรียนทั้งหมด 281 แห่งนี้มาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการประชุมหลัก

ว่าถ้าหากมีการปรับแผนการรูปแบบลดการเรียนการสอนลงรวมถึงลดการสั่งการบ้านลงจะส่งผลกระทบอะไรบ้างกับโรงเรียนต่างๆเหล่านี้และจะสามารถทำได้หรือไม่ซึ่งโรงเรียนจะต้องมีการอธิบายและแนะนำเพิ่มเติมถึงข้อดีข้อเสียของการที่หากมีการบ้านในปริมาณเท่าเดิมกับการบ้านที่ลดน้อยลงแล้วจะแตกต่างกันอย่างไร

ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะเป็นการนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก่อนที่จะมีการพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือมีการส่งเรื่องไปให้กับทางนายกรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าสุดท้ายแล้วขั้นตอนการปฏิบัติที่แท้จริงจะสามารถทำตามอย่างที่นายกรัฐมนตรีต้องการได้หรือไม่ 

          อันที่จริงสำหรับผู้ปกครองบางกลุ่มที่ไม่ได้หวังให้ลูกต้องเรียนแบบเคร่งเครียดมากนัก ก็คงจะชอบหลักการที่นายกมีการส่งให้ทำ นั่นก็คือการเรียนให้น้อยลงในห้องเรียนและเน้นทำกิจกรรมนอกห้อง และลดการบ้านให้เด็กนักเรียนให้ทำการบ้านให้น้อยที่สุด

เพราะเด็กจะได้ไม่เครียด แต่ก็อย่าลืมว่ายังมีผู้ปกครองและเด็กอีกกลุ่มที่ชื่นชอบการเรียนในชั้นเรียนและไม่นิยมการทำกิจกรรม ดังนั้นก่อนที่รัฐบาลจะสั่งให้ทำอะไรก็ควรที่จะมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนด้วยเช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  aecasino

เจอแล้ว พรานเก่ง ที่หายตัวมานานกว่า 2 สัปดาห์ 

         จากกรณีที่ครอบครัวของนายเสน่ห์หรือที่รู้จักกันดีในนามของพรานเก่ง ซึ่งเป็นพรานล่าสัตว์ได้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามหาตัว พรานเก่ง ที่หายตัวไปปริศนาหลังจากที่ได้มีการบอกกับทางญาติๆว่าจะออกไปหาของป่า

ซึ่งทางด้านญาติของพรานเก่งนั้นได้บอกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า พรานเก่งได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปีพศ2563

จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถที่จะติดต่อได้ซึ่งโดยปกติแล้วพรานเก่งมักจะเข้าป่าไปหาของป่าอยู่เป็นประจำแต่เนื่องจากว่าพรานเก่งเป็นนายพรานที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เป็นอย่างมากซึ่งใช้ระยะเวลาเข้าป่าเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็มักจะกลับออกมาจากป่าแล้วแผนที่ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่พบตัวเสียทีจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันออกไปตามหาตัวด้วย

และหลังจากที่ได้รับการแจ้งเรื่องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานทหารและตำรวจต่างก็พยายามออกติดตามหาตัวพรานเก่ง โดยมีการเดินเท้าเข้าไปในป่าเพื่อปูพรมตามหาพรานเก่งซึ่งทางญาติของพรานเก่ง

นั้นระบุว่า ตัวนายพรานนั้นได้เข้าไปในป่าที่เป็นป่าเขาชมภู่อยู่ในเขตเขาเขียว  ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของการหายตัวไปของพรานเก่ง นั้นนับได้ว่าเป็นข่าวที่โด่งดังเป็นอย่างมากมีหลายคนออกมาช่วยกันติดตามหารวมถึงหมอปลาหมอดูคนดังอย่างไร

ก็ตามได้มีการหาตัวกันมา 2 สัปดาห์จนในที่สุดในตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถพบร่างของ พรานเก่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยมีการค้นพบซากโครงกระดูกและใส่เสื้อผ้าของพรานเก่ง อยู่ในป่า

ซึ่งเป็นป่าเดียวกันกับที่ญาติของพรานเก่ง ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรก็ตามจากร่องรอยที่เกิดขึ้นนั้นมีความเป็นไปได้ว่า  พรานเก่ง น่าจะเสียชีวิตจากการที่ถูกอาวุธปืนของตนเองยิงแล้วเสียชีวิตลง เนื่องจากมีร่องรอยการเอาเชือกไปผูกอาวุธปืนเอาไว้ซึ่งอยู่ในระดับประมาณหัวเข่าของคนทำให้ญาติเชื่อว่าพรานเก่ง

  น่าจะมีการดักอาวุธปืนเพื่อเอาไว้ยิงสัตว์แต่น่าจะเดินไปติดกับดักของตนเองและถูกอาวุธปืนยิงทำให้เสียชีวิตพบว่าบริเวณรองเท้าที่พรานเก่ง ใส่อยู่เป็นประจำนั้นมีร่องรอยของการถูกกระสุนปืนซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นเป็นอาวุธปืนเดียวกันกับที่มีการผูกเอาไว้ล่าสัตว์นั่นเองซึ่งทางด้านของพรานเก่งนั้นไม่มีใครติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเพราะเชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

  โดยลักษณะของการเสียชีวิตนั้นตัวของนายพรานเองน่าจะถูกอาวุธปืนยิงเสียเลือดมากและไม่สามารถที่จะเดินทางกลับออกจากป่าเพื่อไปรักษาตัวได้จึงทำให้ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องจบชีวิตลงอยู่ในป่านั่นเองซึ่งสร้างกระดูกของนายพรานนั้นถูกสัตว์กัดแทะจนเหลือโครงกระดูกก็จะตายอยู่ใกล้ๆกับพื้นที่ที่เสียชีวิตนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยจับยี่กี2ตัว

พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวถูกปาดคอจัดท่าศพเหมือนคนนอนหลับ

         เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนปีพศ2563 เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ตรงบริเวณสวนหลังบ้านของผู้เสียชีวิตเองโดยผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายหรรษาอายุ 54 ปีเขาเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ในมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์

โดยสภาพศพของนายสุรินทร์นั้นทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัสทั้งการฟันที่หัวและท้ายทอยที่ขมับรวมถึงใบหน้าอีกทั้งยังมีร่องรอยของการใช้มีดเชือดไปที่บริเวณลำคอซึ่งถ้าดูจากลักษณะของบาดแผลแล้วคนร้ายน่าจะมีอาการแค้นในสุรินทร์อย่างมาก

เพราะว่ามีการทำร้ายร่างกายและไปหมดอย่างไรก็ตาม คนร้ายได้นำร่างของนายสุรินทร์นั้นไปนอนไว้กระท่อมหลังบ้านจัดท่าทางให้เหมือนกับคนนอนหลับปกติทั่วไปซึ่งคนที่มาพบศพนายสุรินทร์คนแรกนั้นเป็นอดีตครู วัย 60 ปี

ซึ่งเขามีบ้านอยู่พื้นที่ใกล้เคียงกับสวนของนายสุรินทร์โดยคุณครูคนดังกล่าวได้บอกให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าในวันเกิดเหตุช่วงหัวค่ำตัวเขาเองแล้วก็นายสุรินทร์รวมถึงภรรยานายสุรินทร์และลูกของนายสุรินทร์ได้นั่งกินข้าว

ร่วมกันหลังจากกินข้าวอิ่มแล้วในสุรินทร์ขอตัวออกไปนอนที่กระท่อมหลังจากนั้นคุณครูวัย 60 ปีก็เข้าไปพักผ่อนในบ้านของตนเองและต่อมาช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆถึงตี 4 คุณครูวัย 60 ปีก็ตื่นนอนเพราะเป็นการตื่นนอนปกติ

ในช่วงเช้าแบบนี้อยู่แล้วหลังจากนั้นก็เดินไปทางสวนหลังบ้านพบว่านายสุรินทร์นอนหลับในกระท่อมจึงได้ตะโกนเรียกพูดคุยแต่ในสุรินทร์นั้นก็นอนเฉยๆไม่ยอมตอบกลับมาตนเองจึงได้เรียกนายทุนใหม่อีกรอบนึง

ซึ่งก็พบว่านายทุนไม่ยอมตอบกลับมาเหมือนเดิมจึงได้เดินเข้าไปคุยด้วยใกล้ๆเมื่อไปถึงจึงเห็นว่านายสุรินทร์นั้นเสียชีวิตแล้วจึงได้วิ่งมาบอกภรรยาของนายสุรินทร์และลูกของนายสุรินทร์หลังจากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบพบศพ

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการพยายามหาหลักฐานเพื่อตามหาตัวคนร้ายยังไงก็ตามตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานใดๆทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามให้นักประดาน้ำไปงมบ่อน้ำที่อยู่ใกล้บ้านของนายสุรินทร์ 

เผื่อว่าคนร้ายจะนำเข้าของของนายสุรินทร์หรืออาวุธที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการเชิญตัวคนในหมู่บ้านซึ่งหายตัวไปในช่วงเวลาที่นายสุรินทร์นั้นประสบเหตุคดีฆาตกรรมอยู่แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น

ก็ไม่พบพิรุธอย่างใดซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบหาสารคัดหลั่งรวมถึงลายนิ้วมือแฝงเกิดว่าผู้ก่อเหตุจะมีการทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ

ซึ่งทางชาวบ้านเองต่างจังหวัดตัวคนร้ายเป็นอย่างมากทางด้านพี่ชายของนายสุรินทร์ก็หวังว่าตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนที่ก่อเหตุได้ในเร็ววันเพราะในสุรินทร์นั้นเป็นคนอัธยาศัยดีและไม่เคยมีปัญหากับใครจึงไม่พอที่จะมีข้อมูลให้ตำรวจทราบได้ว่าผู้ต้องสงสัยนั้นมีใครบ้างจึงต้องพยายามค้นหาจากพยานหลักฐานที่มีอยู่เท่านั้นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สูตรหวยยี่กี