แม่เฒ่าวัย 80 ปี ป่วยติดโควิดตกจากชั้น 7 ของโรงพยาบาลใหญ่เมืองคอนเสียชีวิต 

แม่เฒ่าวัย 80 ปี ป่วยติดโควิด  เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชในช่วงเวลาประมาณ 21:00 น

ด้วยเกิดเหตุการณ์หญิงชราวัย 80 ปีที่เข้ามารักษาอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิช- ตกลงมาจากชั้น 7 ของตัวอาคารของทางโรงพยาบาลลงมาร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่  จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ลูกชายของผู้เสียชีวิตและบรรดาญาติต่างก็คาใจการเสียชีวิตของหญิงชราวัย 80 ปีมากว่าทำไมหญิงชราถึงขึ้นไปบนชั้น 7 แล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตายได้

          จากการพูดคุยกับลูกชายของผู้เสียชีวิตระบุว่าหลังจากที่ตรวจพบว่าแม่วัย 80 ปีมีอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิช- ก็ได้มีการประสานงานหาโรงพยาบาลเพื่อให้แม่เข้ารักษาอาการป่วยซึ่งก็ได้โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชซึ่งในวันที่มาส่งแม่ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษานั้นผู้เสียชีวิตยังคงมีจิตใจที่เข้มแข็งมีกำลังใจดี

      อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้มีการโทรแจ้งญาติพร้อมกับลูกชายของผู้เสียชีวิตว่าหญิงชราวัย 80 ปีที่เข้ารักษาอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดตกอาคารของทางโรงพยาบาลจากชั้น 7 ลงมาร่างกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งในขณะนี้ทางโรงพยาบาลกำลังเข้าเร่งทำการรักษาให้กับหญิงชราอยู่ภายในห้องฉุกเฉิน

เมื่อญาติและลูกชายของหญิงชราเดินทางมาถึงโรงพยาบาลปรากฏว่ามาไม่ทันดูใจหญิงชราเนื่องจากว่าหญิงชราวัย 80 ปีได้เสียชีวิตลงแล้วทำให้ลูกชาย

และหน้าต่างก็คาใจเป็นอย่างมากว่าทำไมเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลถึงปล่อยให้ผู้ป่วยเดินขึ้นไปบนชั้น 7 ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยหรืออย่างไรถึงทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะความเครียดและคิดสั้นจนถึงขนาดโดดตึกฆ่าตัวตายได้ 

          ลูกชายของหญิงชราที่เสียชีวิตยังระบุด้วยว่าหลังจากที่คุยกับเจ้าหน้าที่ของทางพยาบาลได้มีการแจ้งให้ทราบว่าช่วงเวลาที่เวลาลุกออกจากเตียงแล้วขึ้นไปที่ชั้น 7 นั้นทางเจ้าหน้าที่พยาบาลได้มีการเข้าไปในห้องเพื่อทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าจึงไม่มีใครเฝ้าอยู่ที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ทำให้ไม่มีใครเห็นว่าผู้ป่วยเดินออกจากห้องพักแล้วขึ้นไปบนชั้น 7 ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงพยาบาลยอมรับความผิดว่าเกิดจากความสะเพร่าของแพทย์และพยาบาลซึ่งเป็นแพทย์เวรในช่วงเวลาดังกล่าว

           โดยทางโรงพยาบาลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการนำศพของหญิงชราไปทำการฌาปนกิจให้เนื่องจากว่าศพของหญิงชรานั้นติดเชื้อไวรัสโควิตไม่สามารถที่จะสวดอภิธรรมไว้หลายคืนได้ต้องรีบเผาอย่างไรก็ตามลูกชายของหญิงชรายังคงมีความคล่องใจและอยากให้ทางโรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบให้มากกว่าที่เป็นอยู่ซึ่งในขณะนี้ทางลูกชายของหญิงชรากำลังปรึกษาปัญหาญาติพี่น้องว่าจะดำเนินการอย่างไรกับทางโรงพยาบาลต่อไป

 

สนับสนุนโดย    มั่งมีหวย

ช่างแอร์เสียรู้สาว tiktok  สูญเงินนับล้านบาท 

          ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้คนนั้นนิยมมีการใช้งาน Social กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Facebook หรือแม้แต่ Instagram รวมถึงปัจจุบันที่นิยมเล่นมากที่สุด

ก็คือ tiktok นั่นเองและถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นตัวจริงแต่ถ้าชื่นชอบอีกฝ่ายก็จะมีการติดต่อไปผ่านทางข้อความ  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเรามักจะได้เห็นข่าวเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของการถูกล่อลวงให้โอนเงินไปให้หรือหลอกยืมเงินของคนที่รู้จักกันผ่านทางโซเชียลเท่านั้นแต่ไม่เคยเห็นหน้ากันจริงๆ

       ล่าสุดได้มีช่างแอร์คนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความไปยังสาวคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านทางtiktok โดยระบุว่าตนเองนั้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับสาวคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งถ้าหากสาว tiktok คนดังกล่าวไม่ยอมใช้หนี้ที่ยืมไปก็จะมีการฟ้องร้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจะให้หญิงสาวคนดังกล่าวติดคุกให้ได้แม้ว่าจะต้องเสียเวลาในการฟ้องร้องนานและเสียเวลามากแค่ไหนก็ตาม

      สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นช่างแอร์คนดังกล่าวได้มีการเล่าผ่านทาง facebook ส่วนตัวของตนเองว่าได้มีการเข้าไปเล่นแอปtiktok  หลังจากนั้นก็ได้ไปเจอหญิงสาวคนหนึ่งที่เล่นtiktok ด้วยหน้าตาของหญิงสาวคนดังกล่าวสวยถูกใจและแต่งตัวถูกใจช่างแอร์ทำให้เขาตัดสินใจทักไปคุยกับสาวคนดังกล่าว  

       หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันเลยมาทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันอย่างไรก็ตามสาวในtiktok ได้ให้ความหวังหนุ่มช่างแอร์ว่าจะคบหาเป็นแฟนกัน

และถ้าหากว่า covid  ระบาดน้อยลงแล้วก็จะมีการนัดเจอกัน ซึ่งระหว่างที่มีการพูดคุยกันโดยที่ยังไม่เห็นหน้าค่าตาหรือเจอตัวจริงกันนั้นก็มีการยืมเงินกันและฝ่ายชายที่เป็นช่างแอร์ก็มีการโอนเงินให้ฝ่ายหญิงยืมไปเรื่อยๆซึ่งโดยรวมแล้วเป็นยอดเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามในตอนหลังช่างแอร์หนุ่มสามารถจับได้ว่าสาวคนดังกล่าวคิดไม่ซื่อนำเงินที่ยืมไปนั้นไปเลี้ยงผู้ชายคนอื่นนำไปซื้อสร้อยคอทองคำซึ่งฝ่ายชายนั้นก็ได้มีการทวงถามเงินจากฝ่ายหญิงแต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่มีการตอบกลับและปิดช่องทางการติดต่อหมวดมีการเปลี่ยนชื่อtiktok และเปลี่ยนชื่อ Facebook หนีไปทำให้ช่างแอร์หนุ่มนั้นไม่พอใจหนักมากจึงอยากจะเอาเรื่องหญิงสาวให้ถึงที่สุดนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามล่าสุดช่างแอร์นมได้มีการโพสต์ใบแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเป็นหัวข้อกระดาษว่ามีการแจ้งไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ได้มีการรับเรื่องและจะมีการประสานงานติดตามตัวสาว tiktok มาพูดคุยไกล่เกลี่ยและการและถ้าหากไม่มีเงินคืนก็อาจจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    huaydee

อาจารย์เจษฎาไขข้อสงสัยหมึกช็อต  ปลาหมึกทรมาน และมันเจ็บก่อนตายจริงหรือไม่ 

     อาจารย์เจษฎาไขข้อสงสัยหมึกช็อต   จากเรื่องที่กำลังมีการถกกันสนั่นในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เกี่ยวกับการกินอาหารแบบพิสดารเมื่อมีการแชร์วิธีการกินปลาหมึกสด

โดยจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด  ซึ่งมีกลุ่มนึงมองว่าการวิธีการกินแบบนี้นั้นก็คือการทรมานสัตว์เพราะว่าปลาหมึกนั้นยังไม่ตายมันสามารถรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวรับรู้ได้ถึงความเจ็บและการที่กัดกินมันสดนั้นก็ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ชนิดหนึ่งเลยทีเดียว

       อย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกกลุ่มนึงที่ออกมาคัดค้านว่ามุมมองแต่ละคนมันไม่เหมือนกันซึ่งคนที่กินปลาหมึกสดจิ้มซีฟู้ดนั้นมองว่ารสชาติมันอร่อยและการกินปลาหมึกสดจิ้มซีฟู้ดก็ไม่ต่างกันกับการกินกุ้งเต้นนั่นเองแต่เชื่อได้ว่าการกินเข้าไปแบบสดๆนั้นปลาหมึกไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดใดๆเพราะปลาหมึกนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่น่าจะสามารถรับรู้เกี่ยวกับเรื่องของความเจ็บปวดได้

         อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจารย์เจษฎา ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องของปลาหมึกว่าถ้าหากมันถูกกินเป็นๆแล้วมันจะมีความรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ซึ่งอาจารย์เจษฎายืนยันว่าปลาหมึกนั้นถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูก

แต่มันมีความสามารถพิเศษไม่สามารถรับนุชได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเจ็บปวดและมันสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ดีไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความหวาดกลัวจะเห็นได้ว่าเวลาที่เรานำอะไรไปใกล้กับหนวดของปลาหมึกด้วยของมันจะมีการตรวจตอบสนองต่อสิ่งนั้นทันที  

           ดังนั้นมันหมายถึงว่าปลาหมึกนั้นมันสามารถรับรู้ได้ว่าอันตรายกำลังจะเกิดขึ้นกับมันมันสามารถต้องการที่จะหลีกหนีและมันสามารถป้องกันตัวเองได้นอกจากนี้มันยังเป็นสัตว์พิเศษที่มีระบบประสาทสัมผัสที่รับรู้ได้ไวอีกด้วยดังนั้นอาจารย์เจษฎายืนยันว่าปลาหมึกสามารถรับความเจ็บปวดได้หากเราไม่ได้ฆ่ามันก่อน

และยังคงกินมันแบบดิบๆมันก็สามารถรับรู้ได้เช่นเดียวกันนอกจากนี้ถ้าหากว่าปลาหมึกถูกนำไปใช้ในวงการทดลองทางวิทยาศาสตร์มันคือสัตว์อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามอาจารย์เจษฎากล่าวว่าการกินปลาหมึกนั้นก็นับได้ว่ามีอันตรายเป็นอย่างมากถ้าหากเรากินแบบดิบๆเพราะในเนื้อปลาหมึกนั้นเราไม่รู้เลยว่ามันจะมีสารปนเปื้อนสารเคมีหรือแม้แต่พระญาติหรือเชื้อแบคทีเรียปนอยู่ในตัวปลาหมึกหรือไม่เพราะปลาหมึกนั่นก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเลซึ่งในทะเลก็มีอันตรายจากสารปนเปื้อนต่างๆเหล่านี้

ไม่แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆไม่ว่าจะเป็นปลาหรือกุ้งเลยดังนั้นถ้าหากเราต้องการลดความเสี่ยงไม่เกิดอันตรายเข้าสู่ร่างกายของเราได้ก็ไม่ควรจะกินอาหารแบบเด็กๆควรจะนำมาปรุงสุกจะเป็นการดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

การสูดกลิ่นธูปติดต่อกันนานหลายปี ก็เป็นสาเหตุทำให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดได้เหมือนกัน

 

      การสูดกลิ่นธูปติดต่อกันนานหลายปี   มีการเปิดเผยเรื่องราวมาจากคุณหมอมนูญ เมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายน ปี พ.ศ 2565   ซึ่งคุณหมอท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ 

โดยคุณหมอเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของผู้ป่วยรายหนึ่งที่เข้ารับการรักษาตัวซึ่งคุณหมอเป็นแพทย์เจ้าของไข้  โดยคนไข้คนดังกล่าวนั้นตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด 

     สำหรับสาเหตุที่คุณหมอต้องออกมาเปิดเผยเรื่องราวของคนไข้รายนี้เนื่องจากว่าต้องการให้ทุกคนนั้นระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตให้ดีเพราะมะเร็งปอดไม่จำเป็นที่เราจะต้องสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเนื่องจากคนไข้ที่เข้ามารักษากับคุณหมอมนูญเองก็ไม่ใช่คนที่สูบบุหรี่และไม่ได้อยู่ใกล้กับคนที่สูบบุหรี่เช่นเดียวกัน 

      สำหรับรายละเอียดคนไข้รายนี้เป็นผู้หญิงอายุ 65 ปีแล้ว ซึ่งคนไข้รายนี้เป็น คนไข้ประจำของโรงพยาบาลวิชัยยุทธซึ่งในแต่ละปีนั้นก็จะเดินทางมาตรวจร่างกายเป็นประจำและตลอดระยะเวลา 7 ปีที่มีการเข้ารับการตรวจร่างกายกับทางโรงพยาบาลก็จะมีการเอกซเรย์ปอดซึ่งคุณหมอก็พบว่าปอดของหญิงรายนี้มีก้อนเล็กๆทางด้านซ้ายบนซึ่งในทุกๆปีก้อนเล็กๆนั้นก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ

         อย่างไรก็ตามจากการซักประวัตินั้นพบว่าหญิงวัย 65 ปีรายนี้ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆเลยไม่มีแทงค์อาการเหนื่อยหอบไม่เป็นไข้ไม่เป็นความดัน

น้ำหนักไม่ลดเรียกได้ว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอดคุณหมอจึงได้ทำการสแกนปอดเพื่อหาค่ามะเร็งดูพบว่าเป็นมะเร็งปอดแต่โชคดีที่เชื้อไม่ได้ลุกลามไปอวัยวะอื่น       

        จากการพูดคุยซักประวัติกับหญิงวัย 65 ปีรายนี้พบว่าเป็นคนที่ชอบจุดธูปไหว้พระ เป็นประจำซึ่งจะจุดครั้งละ 20 ดอกโดยจะเลือกจุดทุกวันพฤหัสของสัปดาห์และมีการจุดธูปไหว้พระแบบนี้ต่อเนื่องมานานกว่า 6 ปีแล้ว    alpha88      ซึ่งทางคุณหมอเองก็ได้สรุปอาการนี้ว่าน่าจะหายใจเอาควันของถูกเข้าไปอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งที่ปอดซึ่งโชคดีมากที่ตรวจพบและมะเร็งไม่ได้ลุกลามไปส่วนอื่นจึงสามารถรักษาได้ทัน  

           สำหรับการรักษาโรคมะเร็งปอดของหญิงวัย 65 ปีรายนี้คุณหมอมนูญได้ทำการผ่าตัดปอดเอาส่วนที่เป็นเนื้อมะเร็งออกและคอยติดตามอาการซึ่งจากการติดตามอาการมาได้สักระยะหนึ่งก็พบว่าการรักษาเป็นไปในทิศทางที่ดีและสามารถรักษาให้หายขาดได้  ปัจจุบันหญิงวัย 65 ปีสินใจที่จะจุดธูปไหว้พระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการที่จะออกมาพูดเพื่อให้คนไม่ต้องทำการจุดธูปไหว้พระเพียงแต่ถ้าหากว่าถ้าต้องการจุดธูปควรจุดในที่โล่งแจ้งเพื่อที่จะให้ควันธูปและกระจายไปยังส่วนอื่นเพื่อที่เราจะได้ไม่สูดเอากลิ่นธูปเข้าปอดเยอะมากจนเกินไป    

จับวัยรุ่นปืนโหด บุกยิงคู่อริคาห้องฉุกเฉิน ได้แล้ว

        จากกรณีที่มีข่าวเมื่อวันที่ 8 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ที่จังหวัดบึงกาฬ  ได้มีวัยรุ่นก่อเหตุเข้าไปยิงคู่อริถึงห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลปากคาดซึ่งเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณตี 1 กับ 20 นาที

  ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาลนั้นกับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างชัดเจนเห็นหน้าคนร้ายและเห็นขั้นตอนกระทำความผิดได้อย่างชัดเจนซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการออกหมายจับตัวคนร้ายทันทีด้วยคนร้ายอายุเพียงแค่ 21 ปีและเป็นคนในจังหวัดบึงกาฬนั่นเองซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายยังไม่ได้มีการหลบหนีไปยังพื้นที่อื่นจึงได้มีการลงกำลังออกติดตามหาซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็สามารถควบคุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ 

        หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีก็มีการสอบปากคำคนร้ายซึ่งทางด้านคนร้ายได้ให้ข้อมูลว่าตนเอง และผู้เสียชีวิตนั้นไปเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วเกิดทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น

โดยระหว่างที่มีการทะเลาะวิวาทกันนั้นทางด้านผู้เสียชีวิตได้ถูกอาวุธตีไปที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บจึงมีการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลปากคาดซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 01:19 น.

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่คนร้ายหรือว่าพูดบาดเจ็บส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลจึงได้เดินทางตามมาถึงโรงพยาบาลหลังจากนั้นก็เข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้วใช้อาวุธปืนที่พกมายิงไปยังผู้บาดเจ็บทันทีหลังจากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีโดยมีเพื่อนชื่อนายชลิตอายุ 20 ปีเป็นผู้พาหลบหนีซึ่งระหว่างที่มีการทะเลาะวิวาทกันนั้นทางด้านคนร้ายเองก็ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือเช่นเดียวกัน

       จับวัยรุ่นปืนโหด โดยภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ก็ได้พาคนร้ายไปที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บ

โดยการผ่าตัดซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งตำรวจคอยเฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงหน้าห้องผ่าตัดจนการผ่าตัดเสร็จสิ้นหลังจากนั้นจึงได้นำตัวคนร้ายออกจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์และประสานงานไปยังสถานีตำรวจสภบึงกาฬเพื่อควบคุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป 

         สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าวัยรุ่นมักมีการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้งโดยไม่สนใจเลยว่าเมื่อทำความผิดฆ่าคนตายไปแล้วตนเองจะถูกจับติดคุกเพราะเนื่องจากว่าปัจจุบันนี้คดีฆ่าคนตายนั้น    aesexy    หากถูกจับแล้วให้การรับสารภาพก็จะถูกลดโทษรวมถึงถ้าหากอยู่ในคุกไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทก็จะถูกลดโทษจากเดิมที่เคยถูกศาลตัดสินให้จำคุก 20 -30 ปี

        แต่เวลาติดคุกจริงๆแล้วติดคุกเพียงแค่ไม่ถึง 5 ปีก็ออกจากคุกแล้วทำให้วัยรุ่นไม่เกิดความหวาดกลัวการติดคุกจึงมักที่จะมีการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันอย่างรุนแรงอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ดังนั้นเพื่อที่จะให้วัยรุ่นเรานี้หลับจำควรมีการออกกฎหมายใหม่และควรออกกฎหมายเพิ่มโทษให้มีความรุนแรงไม่ควรลดโทษสำหรับผู้กระทำความผิดในการฆ่าคนตาย 

คุณพ่อเตือนภัย กินเค้กต้องระวัง หลังจากลูกสาว 2 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะกินเค้กวันเกิด 

คุณพ่อเตือนภัย กินเค้ก  มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว  มิร์เรอร์  เมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 

โดยหัวข้อข่าวนะมีการระบุว่ามีคุณพ่อคุณแม่คู่หนึ่งได้ออกมาเตือนภัยหากใครก็ตามที่มีการซื้อเค้กให้กับบุตรหลานของตนเองกินให้ระมัดระวังให้ดีเพราะการกินเค้กนั้นอาจจะทำให้บุตรหลานของคุณได้รับอันตรายก็ได้เช่นเดียวกันเนื่องจากว่าครอบครัวของเขานั้นประสบปัญหาลูกของเขาทั้งสองคนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากกินเค้กวันเกิดเข้าไป 

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณพ่อรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยผ่านทาง Social Media เป็นการเตือนภัยให้กับผู้ปกครองนั้นให้ระมัดระวังเรื่องของอาหารการกินโดยเฉพาะเค้กซึ่งถือว่าเป็นขนมที่เด็กๆชอบมากและหลายคนคงไม่คิดว่าเค้กนั้น

จะมีอันตรายกับคนที่กินเข้าไปได้แต่คุณพ่อรายนี้ยืนยันว่าการกินเค้กนั้นก็สามารถสร้างอันตรายให้กับเด็กๆได้เช่นเดียวกัน

          โดยเล่าถึงเรื่องราวของลูกสาวของตนเองโดยระบุว่าเขาได้ไปซื้อเค้กมาให้ลูกสาวเนื่องจากว่าเป็นวันเกิดของลูกสาวซึ่งแน่นอนว่าเค้กนั้นมีการประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามหลังจากที่ลูกสาวของเขากินเค้กเข้าไปได้ไม่นานก็เกิดอาการไม่สบายจนต้องพาลูกมาที่โรงพยาบาลและหลังจากที่คุณหมอได้มีการเอกซเรย์ก็พบว่าในท้องของลูกสาวของเขานั้นมีโลหะชนิดหนึ่งอยู่ภายใน

           ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าโลหะชนิดนี้ถูกผสมมาอยู่ในเค้กโดยทางร้านที่ทำเค้กขายนั้นได้เอาแท่งโลหะ

ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากติดไว้กับลูกกวาดที่ใช้ในการตกแต่งเค้กเพื่อต้องการยึดให้ลูกกวาดเหล่านั้นไม่ตกหล่นแต่ในขณะเดียวกันทั้งร้านเค้กก็ไม่ได้มีการแจ้งกับผู้ปกครองของเด็กว่าได้มีการนำเอาแท่งโลหะยึดผสมอยู่ภายในเนื้อเค้กทำให้ผู้ปกครองรวมถึงตัวเด็กเองคิดว่าเค้กนั้นสามารถกินได้ทุกชิ้นจึงไม่ได้เกิดระมัดระวังและกินชิ้นส่วนของโลหะเข้าไปโดยที่ไม่รู้ตัวจนเกิดเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น

        อย่างไรก็ตามคุณพ่อรายนี้ระบุว่าโชคดีที่เขาพาลูกสาวของเขานั้นไปรักษาอาการได้ทันทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้มีการดูแลเด็กจนในขณะนี้มีอาการปลอดภัยและอยู่ในสภาวะเป็นปกติเรียบร้อยแล้วแต่ยังคงต้องเฝ้าระมัดระวังก่อนที่จะมีการพากลับบ้านได้ดูวิธีการรักษาของคุณหมอนัดคุณหมอจะให้เด็กถ่ายออกมาเองตามธรรมชาติ

   หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดอันตรายกับลูกของตนเองเกิดขึ้นคุณพ่อตานี้จึงได้มีการมาพบผ่านทาง Social เพื่อเป็นการแจ้งเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังไม่ว่าจะเป็นขนมเค้กหรือขนมชนิดอื่นๆหากมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่ามีการนำส่วนผสมที่ไม่สามารถกินได้แสงเข้าไปอยู่ในขนมเหล่านั้นหรือไม่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกหลานของตนเอง

 

สนับสนุนโดย.    ubett

หนุ่มโพสต์ถามโซเชียล ผิดไหม กินชาบูแล้วเอาน้ำดื่มที่เหลือกลับ หลังถูกแฟนต่อว่า

      กินชาบูแล้วเอาน้ำดื่มที่เหลือกลับ  เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปทานอาหารที่ร้านอาหาร  ต้องเคยเจอกับสภาพที่สั่งเครื่องดื่มมาเป็นขวดแล้วอาจจะยังไม่ทันได้กินแต่อิ่มซะก่อนซึ่งบางคนนั้นเลือกที่จะหยิบเครื่องดื่มนั้นออกมาจากร้านด้วยแต่ก็มีหลายคนที่เลือกที่จะวางเครื่องดื่มนั้นไว้ภายในร้านถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้เปิดดื่มหรือถึงแม้ว่าเราจะมีการจ่ายเงินไปแล้วก็ตาม

  ซึ่งการที่เราจะเลือกหยิบเครื่องดื่มออกมาหรือไม่หยิบเครื่องดื่มออกมานั้นเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของแต่ละคนและทางร้านเองก็ไม่ได้มีการระบุข้อห้ามเอาไว้อย่างแน่นอนเนื่องจากว่าลูกค้าได้มีการจ่ายเงินไปแล้วจึงเป็นสิทธิ์ของลูกค้าที่จะเอาเครื่องดื่มที่จ่ายเงินแล้วออกนอกร้านได้ 

         อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 31 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งโพสต์ข้อความถามความคิดเห็นลงใน Pantip เนื่องจากว่าเขาถูกแฟนสาวต่อว่าหลังจากที่เขาและแฟนสาวได้พากันไปกินชาบูที่ร้านชาบูแห่งหนึ่ง  โดยชายหนุ่มรายนี้ได้มีการสั่งน้ำอัดลมไปทั้งหมด 2 ขวดแต่เมื่อกินชาบูอิ่มแล้ว

ปรากฏว่ามีการเปิดกินน้ำอัดลมไปเพียงแค่ขวดเดียวเท่านั้นซึ่งอีกขวดนึงยังไม่ได้มีการเปิดกินแต่ชายหนุ่มรายนี้ได้มีการจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว  ทำให้เขาตัดสินใจหยิบขวดน้ำอัดลมเพื่อจะนำกลับไปกินบนรถระหว่างทางกลับบ้าน

           อย่างไรก็ตามแฟนสาวของเขากลับไม่พอใจและไม่ยอมให้เขาหยิบขวดน้ำอัดลมขวดดังกล่าวออกจากร้านโดยอ้างว่าไม่มีใครทำการและเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างมากนอกจากนี้แฟนสาวของเธอยังแสดงท่าทีว่ารู้สึกอายกับพฤติกรรมของเขาอีกด้วย  อย่างไรก็ตามในความคิดเห็นของชายหนุ่มเขามองว่าเขาได้เสียเงินจ่ายตังค์ไปแล้ว    

          ที่สำคัญน้ำอัดลมก็เป็นสิทธิ์ของเขาและน้ำอัดลมก็ยังไม่ได้มีการเปิดกินซึ่งยังมีปริมาณเต็มขวดและเขามีสิทธิ์ที่จะนำน้ำอัดลมดังกล่าวออกไปจากร้านได้ ทำให้เขานั้นเกิดความสงสัยว่าพฤติกรรมของเขานั้นผิดหรือไม่แล้วคนอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรจึงได้มีการนำมาโพสต์ถามชาวโซเชียลในพันทิปนั่นเอง 

          หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็มีชาวโซเชียลเข้ามาตอบกระทู้กันมากกว่า 200 comment กันเลยทีเดียวโดยส่วนใหญ่มองว่านมเจ้าของโพสต์นั้นไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทุกคนก็ทำกัน   กริลแอร์   เพราะมีการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วและที่สำคัญน้ำอัดลมก็ยังเหลืออยู่เต็มขวดแต่ถ้าหากว่าน้ำอัดลมเหลือเพียงแค่นิดหน่อยก็ไม่ควรที่จะหยิบออกมา เพราะมันจะดูว่าเจ้าของโพสต์งกจนเกินไป 

         ส่วนทางด้านแฟนสาวที่รู้สึกอับอายนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าครอบครัวของเธอมีการสั่งสอนมาเกี่ยวกับเรื่องของการทานอาหารนอกบ้านว่าไม่ให้เอาของที่ร้านกลับก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามชาวโซเชียลส่วนใหญ่มองว่าการหยิบของเหลือกลับบ้านนั้น สามารถทำได้ซึ่งไม่ใช่ความผิดร้ายแรง

สาวโพสต์แฉ เดตแรกฝ่ายชายไม่เลี้ยงทั้งที่เธอไม่ได้พกเงินไป 

ดตแรกฝ่ายชายไม่เลี้ยง   มีเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา    โดยหญิงสาวรายนี้มีโพสต์เล่าเรื่องราวของเธอผ่านทาง Social โดยมีการนำไปโพสต์ไว้ใน  Application tiktok  เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2564

ซึ่งหลังจากที่โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอออกไปนั้นปรากฏว่ามีผู้คนเป็นจำนวนมากเข้ามาอ่านข้อความและมีการพักการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งนี้มีคนเข้าไปดูคลิปที่เธอโพสต์มากถึง 5.4 ล้านครั้งแล้วและมีการ Comment  กันสนั่นหวั่นไหวเลยทีเดียว    

        สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวคนดังกล่าวเธอเล่าว่าตัวเธอนั้นได้มีการรู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่งและมีการนัดออกเดทกัน  ซึ่งถือว่าเป็นเดทแรกระหว่างเธอกับฝ่ายชาย  ทั้งคู่นัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง fresno  รัฐแคลิฟอร์เนีย 

  อย่างไรก็ตามปัญหาที่เธอออกมาโพสต์เล่าในติ๊กต๊อกนั้นก็คือเมื่อมีการสั่งอาหารปรากฏว่าเธอไม่ได้มีการเตรียมเงินไปด้วยแต่ฝ่ายชายก็ไม่ได้สนใจเพราะฝ่ายชายนั้นสั่งอาหารมากินคนเดียว

        โดยเธอได้มีการถ่ายคลิปในช่วงเวลาดังกล่าวมาโพสต์ใน tiktok ด้วยจะเห็นได้ว่าบนโต๊ะอาหารนั้นมีอาหารเฉพาะที่บริเวณด้านหน้าของฝ่ายชายส่วนบริเวณหน้าด้านของฝ่ายหญิงนั้นไม่มีอาหารทำให้หลังจากที่จบเดชนี้แล้วเธอก็ออกมาโพสต์ใน Application tiktok และถามว่าเธอยังควรที่จะคบหากับชายคนนี้ต่อไป

หรือไม่และเธอควรที่จะไปเดทกับเขาเป็นครั้งที่สองต่อหรือไม่ซึ่งเธอระบุว่าทางที่ฝ่ายชายหรือว่าเธอไม่มีเงินจ่ายแต่เขาก็ไม่สนใจเธอเลย    

         อย่างไรก็ตามสำหรับ Comment ของชาวโซเชียลนั้นมีการระบุว่าการที่ไปเดทนั้นควรจะต้องมีการจ่ายใครจ่ายมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเดทแรกเกิดควรที่จะต้องรอให้ไฟใช้จ่ายอย่างเดียวเพียงเท่านั้นและจากประสบการณ์ในครั้งนี้เธอเชื่อว่าฝ่ายชายเองก็อาจจะไม่อยากจะมาเดทกับครั้งที่ 2 กับเธอก็ได้    

      หลายคนในโลกออนไลน์มองว่าพฤติกรรมของหญิงสาวนั้นเป็นพฤติกรรมที่หวังไปกินฟรีเพราะไม่เช่นนั้นเธอคงจะพกเงินไปด้วยถึงแม้ว่าเมื่อไปถึงสั่งอาหารแล้วฝ่ายชายจะเลี้ยงอาหารเธอนั้นก็จะเป็นอีกเรื่องนึงแต่การที่เธอตั้งใจที่จะไม่พกเงินไปเลยนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนมองว่าปัจจุบันนี้

การไปเดทกันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้ฝ่ายชายเลี้ยงอย่างเดียวควรที่จะต้องแชร์เงินกันถึงจะเป็นการยุติธรรม  เพราะแต่ละคนนั้นอาจจะมี สภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นไม่ควรคาดหวังว่าจะให้ฝ่ายชายเลี้ยงเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยออนไลน์ Huaydee

หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี ถูกสุนัขกัดปาก  หลังเมาแล้ว ไปด่าหมา

    หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี ถูกสุนัขกัดปาก     เมื่อวันที่ 9 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในซอยพุทธบูชา 36 ซึ่งเป็นบ้านเช่าได้เกิดอุบัติเหตุเจ้าของบ้านเพศชายวัย 55 ปีถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กัดเข้าบริเวณที่ปากจนได้รับบาดเจ็บ  ซึ่งภรรยาของผู้บาดเจ็บได้มีการโทรตามกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ   

อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บนั้นนั่งอยู่ภายในบ้านโดยรอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยทำการประถมพยาบาลให้  ซึ่งผู้บาดเจ็บนั้นมีอาการเลือดออกตรงบริเวณปากโดยสภาพมีลักษณะเหมือนกับปากฉีก

       จากคำให้การของภรรยาของผู้บาดเจ็บให้การว่าผู้บาดเจ็บนั้นเป็นสามีของเธอถูกสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้เป็นสุนัขพันธุ์ทางชื่อเจ้าตูบกัดเข้าไปที่บริเวณปากจนเป็นแผลฉกรรจ์  ชื่อสุนัขตัวดังกล่าวนั้นทางภรรยาผู้บาดเจ็บมีการเลี้ยงเอาไว้มานานหลายปีแล้วซึ่งอยู่กับเธอก่อนที่จะมีการมาอยู่กินครบหากับผู้บาดเจ็บด้วยซ้ำไปซึ่งก็นับโดยอายุปีแล้วก็อยู่กับเธอมานานถึง 12 ปีแล้วนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บระบุว่าโดยปกติแล้วเจ้าตูบสุนัขที่เธอเลี้ยงเอาไว้นั้นมีพฤติกรรมและนิสัยไม่ได้ก้าวร้าวไม่ได้ใช้ความรุนแรงและไม่เคยกัดใครมาก่อนหมาของเธอนั้นเป็นหมาที่ค่อนข้างน่ารักและเชื่อฟังซึ่งเธอมั่นใจว่าสาเหตุที่หมาของเธอกัดปากสามีของเธอนั้นน่าจะเกิดจากการที่สามีของเธอด่าทอหมาพบเมื่อสามีของเธอดื่มสุรานั้นก็มักจะชอบโวยวายอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว  

       อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บยืนยันว่าเธอไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่สุนัขกัดปากสามีของเธอเนื่องจากว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเธอไปซื้อของที่ตลาดจึงได้เพียงแค่สันนิษฐานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะหลังจากกลับมาบ้านเธอเห็นสามีของเธออยู่ในอาการเมาสุรา  และไม่มีการสอบถามสามีผู้บาดเจ็บก็ตอบเพียงแค่ว่าไม่ได้ทำอะไรนอนอยู่แล้วหมาก็เดินมากับเฉยๆซึ่งเธอไม่เชื่อว่ามาของเธอนั้นจะมีพฤติกรรมดังกล่าว

       อย่างไรก็ตามภรรยาของผู้บาดเจ็บยืนยันว่าโดยปกติแล้วถ้าหากผู้บาดเจ็บนั้นกินเหล้าเมาแล้วมักจะเริ่มรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบไปหยอกหมาจึงทำให้เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ก็น่าจะเกิดจากการที่สามีของเธอนั้นอยากมาด้วยอาการรุนแรงทำให้มันไม่พอใจและกระโดดกัดปากของสามีเธอนั่นเอง

ซึ่งยืนยันว่าเธอจะยังคงเลี้ยงหมาตัวนี้อยู่เพราะเธอรักเหมือนลูกแต่เธอนั้นจะดูแลให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อีกซ้ำสองซึ่งหลังจากนี้เธอยืนยันว่าเธอจะไปหาซื้อตะกร้อครอบปากเอาไว้มาใส่สุนัขของเธอเพื่อไม่ให้สุนัขของเธอนั้นไปกลับหรือไปทำร้ายชาวบ้านคนอื่น 

 

สนับสนุนโดย.     agplus

ชาวบ้านร้องเรียนปลัดบุรีรัมย์ถูกหมาพิตบูลกัด ไปส่องดูพบเป็ฯพันธุ์ เฟรนซ์บลูด็อก

    ชาวบ้านร้องเรียนปลัด  ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อำเภอลำปลายมาศ  จังหวัดบุรีรัมย์   ได้มีการส่งเอกสารร้องเรียนไปยังอำเภอและส่งเรื่องถึงปลัด อบต.หนองคู   เกี่ยวกับลูกบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นคนที่มาเช่าอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านได้มีการเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัวเป็นสีขาวกับสีดำแล้วปล่อยให้สุนัขออกมากัดชาวบ้านในหมู่บ้าน   ซึ่งในขณะนี้มีชาวบ้านถูกตัดไปแล้ว 2 คน 

        โดยชาวบ้านที่มาร้องเรียนนั้นระบุว่าหมาที่กัดนั้นเป็นพันธุ์พิทบูล  โดยในขณะนี้คนในหมู่บ้านต่างก็พากันหวาดกลัว  จึงได้พากันทำเรื่องให้ทางอำเภอช่วยประสานงานพูดคุยกับทางเจ้าของบ้านให้ควบคุมของสุนัขตนเองให้ดีอย่าปล่อยให้ออกมาสร้างความเดือดร้อน   

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ปลัด อบต. หนองคู   ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอำเภอลำปลายมาศทราบเรื่องราวดังกล่าวก็ได้มีการลงพื้นที่ทันทีพร้อมกันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปศุสัตว์ประจำจังหวัดไปด้วย   เมื่อไปถึงหมู่บ้านดังกล่าวทางปลัด อบต.รวมถึงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็แวะไปเยี่ยมคนบาดเจ็บทั้งสองหลัง 

  โดยคนแรกนั้นถูกกัดขนาดขี่รถจักรยานออกกำลังกายในสวนสาธารณะของหมู่บ้านในขณะที่อีกคนนึงนั้นถูกกัดขณะที่ออกมาทิ้งขยะหน้าบ้านของตนเอง

    อย่างไรก็ตามจากบาดแผลที่เห็นพบว่าเป็นเพียงแค่รอยข่วนเล็กๆไม่ใช่รอยกลับลึก   ซึ่งหลังจากที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยแล้วทางด้านปลัด อบต. และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็ได้ไปบ้านเจ้าของสุนัขพันธุ์พิทบูล  เมื่อเดินทางไปถึงบ้านที่เลี้ยงสุนัขพบว่าสุนัขที่เลี้ยงอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวนั้นไม่ใช่พันธุ์พิทบูลแต่เป็นสายพันธุ์ เฟรนซ์บลูด็อก  ซึ่งโดยปกติแล้วสายพันธุ์นี้จะเป็นสายพันธุ์น่ารักเข้ากับคนได้ง่ายขี้เล่นและไม่มีนิสัยดุร้าย

     อย่างไรก็ตามเมื่อทางปลัด อบต. ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของบ้าน พบว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวนั้นเป็นของเพื่อนซึ่งขณะนี้เดินทางไปทำงานต่างอำเภอทางด้านปลัด อบต. จึงได้มีการต่อสายคุยกับเจ้าของสุนัขโดยตรงโดยเจ้าของสุนัขยืนยันว่ามาของเขานั้นไม่ได้มีการดุร้ายแต่เพื่อความสบายใจของเพื่อนบ้านเขาจะนำสุนัขทั้ง 2 ตัวกลับไปไว้ที่จังหวัดยโสธรซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเขาเอง

      เบื้องต้นเจ้าของสุนัขยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่องว่าสุนัขของตนเองนั้นไปกับเพื่อนบ้านและถ้าหากสุนัขของเขากัดจริงก็จะมีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ยืนยันว่าจะรับผิดชอบอย่างแน่นอน   ซึ่งทางด้านปลัด อบต. หนองคู ได้ทำการเรียกตัวเจ้าของสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกและชาวบ้านที่ถูกสุนัขกัดทั้ง 2 รายเตรียมนัดวันเพื่อที่จะได้ตกลงเจรจากันอีกครั้งหนึ่งและเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง 

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี