เด็กหญิงมาเลเซียวัย  12 ปีคลอดลูกในห้องน้ำ 

         เป็นเรื่องเล่าของเด็กสาวของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเด็กสาวคนนี้เธอแต่งงานตั้งแต่อายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้นและด้วยวัยเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้นเธอจึงไม่รู้ว่าคนที่ปวดท้องคลอดลูกนั้นเป็นอย่างไร

จนมาวันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังปวดท้องเธอคิดว่าเธอนั้นจะไปถ่ายหนักเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็พบว่าเธอกำลังจะคลอดลูกจนเธอต้องตามญาติให้พาตัวเธอนั้นไปส่งที่โรงพยาบาลแต่เนื่องจากว่าโรงพยาบาลและบ้านเธอนั้นอยู่ห่างกันไกลกันถึง 270 กิโลเมตร

ซึ่งต้องใช้เวลาในการขับรถถึง 6 ชั่วโมงด้วยกันทำให้เธอนั้นเดินทางไปไม่ถึงโรงพยาบาลก็จะคลอดลูกระหว่างทางโดยมีคุณยายของเธอนั้นเป็นคนตัดสายสะดือให้อย่างไรก็ตามเด็กหญิงคนดังกล่าวนั้นถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น

ซึ่งคนในหมู่บ้านของเธอนั้นมีการแต่งงานกันอายุยังน้อยเกือบทุกคนอยู่แล้วโดยเธอพบรักกับแฟนหนุ่มของเธอซึ่งอายุ 16 ปีหลังจากแต่งงานกันได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเธอก็ต้องตั้งท้องอย่างไรก็ตามเธอมีความหวังว่าเธออยากจะเรียนหนังสือให้มากขึ้นกว่าเดิมเธอชอบวิชาวิทยาศาสตร์

และเธอชื่นชอบภาษาอังกฤษเธอต้องการเรียนหนังสือให้สูงเพื่อที่จะได้จบมาแล้วมาเป็นคุณครูแต่ความหวังของเธอนั้นก็ต้องถูกครับไปเมื่อพ่อของเธอให้เธอแต่งงานและในตอนนี้เธอนั้นคลอดลูกออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วความหวังที่เธอจะได้ไปเรียนหนังสือ

และได้เป็นคุณครูนั้นจึงต้องถูกเป็นอันยกเลิกไปเนื่องจากว่าสามีของเธอไม่ต้องการให้เธอนั้นไปเรียนหนังสือและเธอเองก็จำเป็นต้องดูแลลูกน้อยของเธอซึ่งจากการที่เธอนั้นคลอดลูกตั้งแต่อายุยังน้อยเธอจึงได้ไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลโดยเรื่องนี้ทำให้เธอทราบว่าด้วยวัยเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น

เธอยังไม่ควรที่จะมีลูกเพราะจะเป็นอันตรายต่อทั้งตัวแม่และเด็กและโชคดีมากที่เธอท้องในครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีดังนั้นคุณหมอจึงให้เธอทำการคุมกำเนิดในไว้ก่อนและเธอจะสามารถปล่อยให้มีลูกได้อีกครั้งหนึ่งตอนที่เธออายุ 18 ปีขึ้นไปแล้วนั่นเอง

        สำหรับเรื่องราวของเด็กสาววัย 12 ปีซึ่งเป็นคนประเทศมาเลเซียนี้ทำให้เราได้เห็นได้ว่าวัฒนธรรมของคนมาเลเซียนั้นค่อนข้างที่จะไม่เหมือนกับประเทศไทยซึ่งมีการแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยมากโดยอายุแค่ 12 ปีนั้นยังเป็นเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย

ก็ถูกจับให้มาแต่งงานแล้วในขณะที่คนไทยปัจจุบันนี้ไม่นิยมการแต่งงานและคนในครอบครัวก็ไม่มีใครบังคับให้บุตรหลานของตนเองแต่งงานด้วยโดยมองว่ายิ่งแต่งงานอายุน้อยนั้นพ่อแม่ยิ่งไม่สนับสนุนซึ่งสวนทางกับคนมาเลเซียอย่างสิ้นเชิง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน โปรดี

เจ็บตัวฟรี เมื่ออันธพาลไม่อยากให้เลี้ยงไก่

ชายใจดี อยากเลี้ยงไก่ย่างคนเคยเห็นหน้า สุดท้ายเจ็บตัวฟรี เมื่ออันธพาลไม่อยากให้เลี้ยงไก่

         วันที่ 20 เดือนมิถุนายน  ปี พ.ศ. 2563   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากนายสุระเพชรว่าเขาถูกทำร้ายร่างกายขนาดที่นั่งตั้งวงกินเหล้าอยู่กับเพื่อนโดยนายสุรเพชรนั้นให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตัวเขานั้นอายุ 21 ปีมีอาชีพขายหมูย่างในวันเกิดเหตุนั้น

ขณะที่เขาขายหมูย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากขายเสร็จแล้วกำลังจะนั่งกินเหล้าจึงได้ซื้อส้มตำเพื่อนำมาเป็นกับแกล้มระหว่างนั้นเองได้พบผู้ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเพื่อที่จะมาซื้อไก่ย่าง

โดยนายสุระเพชรบอกว่าเขาเคยเห็นผู้ก่อเหตุมาก่อนจึงได้มีการชวนคุยระหว่างที่ชายคนดังกล่าวนั้นยืนซื้อไก่ย่างอยู่โดยผู้ชักชวนว่าอยากกินอะไรเดี๋ยวเขาจะเลี้ยงเองทำให้ชายคนนั้นไม่พอใจแล้วพูดตอบกลับมาลักษณะของการชวนให้มีเรื่องชกต่อยกัน

ซึ่งเขาเองก็แปลกใจเพียงแค่ต้องการจะเลี้ยงไก่ญาติกับจะถูกทำร้ายร่างกายเขาจึงได้ขอโทษชายคนดังกล่าวไปหลังจากนั้นเขาก็นำส้มตำไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนอย่างไรก็ตามชายคนดังกล่าวนั้นได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไปตามเพื่อนมาอีกประมาณ 4-5 คนซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีการพกมีดสปาต้ามาด้วย หลังจากนั้นก็เข้ามาทำร้ายเขาโดยนำมีดมาฟันที่หัวและตามร่างกายของเขาทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากที่ทำร้ายเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผู้ก่อเหตุก็ได้หลบหนีไปโดยมีการทิ้งมือถือเอาไว้และรถจักรยานเอาไว้ในจุดเกิดเหตุด้วยอย่างไรก็ตามเขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายในครั้งนี้จึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวซึ่งเขาได้บอกด้วยว่าต่อไปนี้เขาจะไม่ชวนใครกินอะไรอีกแล้ว

เพราะด้วยความหวังดีแค่จะเลี้ยงไก่กับถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุซึ่งแม่ของนายสุรเพชรกล่าวว่าลูกชายของเขานั้นได้รับบาดเจ็บหลายแห่งและตัวของเขาเองนั้นก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นเดียวกันเพราะเอาตัวไปบางลูกชายขณะที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายนั่นเอง

        สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดีเนื่องจากมีหลักฐานทั้งโทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์จึงสามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นใครแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดอยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นตามจับกุมตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุทั้งหมดมาให้ได้เสียก่อน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน สมัครฟรี

เด็ก 3 ขวบปีนหน้าต่างตึกชั้น 29 ตกลงมารอดปาฏิหาริย์

      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อมีครอบครัวหนึ่งได้มีการปล่อยให้กับยายหลานนั้นอยู่บ้านกันตามลำพังสองคนบังเอิญว่าวันดังกล่าวนั้นคุณยายได้มีการออกไปทำธุระนอกห้องแล้วปล่อยให้หลานซึ่งเป็นเด็กผู้ชายอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น

อยู่ในห้องพักเพียงลำพังอย่างไรก็ตามด้วยความซุกซนของเด็กเด็กชายวัย 3 ขวบได้ปริ้นออกมาที่บริเวณหน้าต่างของอาคารชั้น 29 และตกลงมาซึ่งโชคดีเป็นอย่างมากขณะที่เขาตกลงมานั้นร่างกายของเขาได้ไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ พี่ห้องอื่นๆนั้นได้มีการปลูกต้นไม้เอาไว้และมีการยื่นออกมานอกอาคาร

ทำให้กระแสความแรงจากการตกจากที่สูงนั้นเบาลงส่วนล่างของเด็กน้อยนั้นหลังจากที่เกี่ยวกิ่งไม้แล้วเขาก็ร่วงลงมาตกลงบริเวณสวนของสนามของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวจึงทำให้เด็กน้อยนั้นรอดไปอย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวสำหรับความสูงจากชั้น 29 ลงมาถึงชั้น 1 นั้นมีการวัดความสูงแล้วเป็นความสูงถึง 90 เมตรเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามถือว่านี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งถ้าหลังจากนี้ผู้ปกครองของเด็กควรจะต้องมีการควบคุมดูแลไม่ปล่อยให้เด็กนั้นเล่นอยู่ในห้องเพียงลำพังโดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เดือนมิถุนายนปี  พ.ศ.2563

มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวจีนออกข่าวโด่งดังทั่วทั้งประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการระบุว่าพ่อแม่ของเด็กนั้นจะต้องออกไปทำงานเป็นประจำทุกวันและเขาได้ปล่อยให้คุณยายเป็นคนเลี้ยงเด็กน้อยวัย 3 ขวบอยู่ที่คอนโดเพียงลำพัง

แต่บังเอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นคุณยายต้องออกไปทำธุระเลยคิดว่าจะปล่อยหลานชายให้นั่งดูทีวีเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่ช่วงเวลาที่คุณยายออกไปข้างนอกนั้นเด็กชายวัย 3 ขวบได้เข้าไปในห้องครัวและได้เป็นหน้าต่างและร่วงลงมา

ซึ่งเมื่อคุณยายกลับมาถึงห้องไม่พบสารจึงได้เข้าไปดูในห้องครัวเพราะว่าประตูห้องครัวเปิดทิ้งไว้ทั้งที่ตอนแรกนั้นตนเองปิดเอาไว้จึงทำให้รู้ว่าหลานชายนั้นร่วงลงมาอย่างไรก็ตามจากการที่นำตัวเด็กไปส่งโรงพยาบาลพบว่าเด็กนั้นมีอาการสาหัสทั้งในเรื่องของการเกิดอาการช็อคและยังมีอาการบาดแผลตามร่างกายอีกหลายแห่ง

รวมถึงมีลักษณะของโครงหักและมีอาการไตบวมแต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการรักษาการอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์อาการของเด็กก็ดีขึ้นและตอนนี้ก็สามารถที่จะกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน ไม่ผ่านเอเย่นต์

สอง ตาหลานหาเวลาว่างปั่นจักรยานเก็บเศษดิน เอามาถมถนนที่เป็นหลุม 

         ในโลกออนไลน์กำลังมีการแชร์ภาพของคุณตาท่านหนึ่งกับหลานชายอายุ 3 ขวบซึ่งในภาพนั้นจะเป็นภาพที่คุณตาและหลานชายกำลังช่วยกันเทก้อนดินที่ขนใส่กระสอบปุ๋ยแล้วนำมาเทใส่หลุมบนถนนของหมู่บ้านซึ่งคนที่มีการโพสต์ภาพดังกล่าวนั้นได้มีการระบุด้วยว่าคุณตาท่านนั้น

ชื่อว่าคุณตาสมนึกซึ่งคุณตานั้นร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเนื่องจากว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงและคุณตาก็อายุ 68 ปีแล้วในขณะที่หลานชายของคุณตานั้นอายุแค่เพียง 3 ขวบเท่านั้นแต่ทางผู้โพสต์ Facebook ระบุว่าผู้คนในหมู่บ้านมักจะเห็น 2 ตาหลานนี้พากันปั่นจักรยานออกไปนอกบ้านและเดินเก็บเศษดินเพื่อนำมาใส่กระสอบปุ๋ยหลัง

จากนั้นก็จะมาเทปิดหลุมบนถนนของหมู่บ้านซึ่งทุกคนนั้นจะเห็นแบบนี้เป็นประจำทุกวันผู้ใช้ Facebook ที่มีการโพสต์ภาพเหล่านี้จึงเกิดความรู้สึกประทับใจและอยากจะแชร์ภาพที่ตนเองและคนในหมู่บ้านนั้นเกิดความประทับใจให้คนในโลกออนไลน์ได้ดูกันซึ่งหมู่บ้าทุ่งแต้วอยู่ที่ตำบลเขาพระ   จังหวัดสงขลา

ซึ่งหลังจากที่ภาพนี้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ก็ทำให้เกิดกระแสการชื่นชมอย่างไม่ขาดสายเนื่องจากว่าหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวและได้เห็นรูปภาพก็เกิดความรู้สึกประทับใจที่เด็กน้อยแค่เพียง 3 ขวบกับคุณตาซึ่งร่างกายไม่แข็งแรงนั้น

กับต้องการทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้านของตนเองหลายคนออกมาถามหาถึงความรับผิดชอบของทางราชการซึ่งการซ่อมถนนนั้นเป็นงานที่จะต้องรับผิดชอบจากทางหน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอหรือผู้ใหญ่บ้านแต่กลับต้องให้คนในหมู่บ้านซึ่งเป็นคนแก่และเด็กนั้นต้องมาซ่อมแซมถนนกันเอง

           สำหรับเรื่องราวที่สร้างความประทับใจในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลังรวมถึงคนในหมู่บ้านคนอื่นๆให้หันมาทำเป็นแบบอย่างในการที่จะช่วยกันดูแลหมู่บ้านของตนเองนั้นให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองเพราะถนนนั้นเป็นถนนที่ทุกคนก็ต้องใช้ร่วมกันอยู่แล้วดังนั้นเมื่อถนนเกิดความชำรุดเสียหาย

ก็ควรจะช่วยกันทำการซ่อมแซมไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะคนใดคนหนึ่งเท่านั้นอย่างไรก็ตามที่สำคัญถนนนี้เป็นของส่วนกลางที่ทางราชการควรจะต้องลงมาดูแลดังนั้นเรื่องราวที่มีการเผยแพร่นี้จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางราชการจะมองเห็นและได้ยินเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้เข้าไปช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้าน

ที่ห่างไกลจากความเจริญโดยนำเงินงบประมาณของแผ่นดินเงินที่เก็บภาษีของประชาชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่ไปนำไปซื้อรถถังเรือดำน้ำทั้งๆที่ประเทศไทยนั้นไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเลย

 

สนับสนุนโดย  sagame เครดิตฟรี

สะพานลอยหน้ามหาลัยจุฬาลงกรณ์กำลังเป็นข่าวดัง

สะพานลอยหน้ามหาลัยจุฬาลงกรณ์กำลังเป็นข่าวดังเมื่อสร้างเสร็จแล้วกลับไม่มีที่กั้นกันตก

      ในโลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของสะพานลอยซึ่งอยู่ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยจุฬาตรงบริเวณหน้าคณะนิติศาสตร์ซึ่งอยู่ตรงบริเวณถนนพญาไทโดยมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มีการโพสต์ภาพสะพานลอยซึ่งมีการสร้างเสร็จแล้วแต่ปัญหาที่นำมาโพสต์นั้นก็เพราะว่าบริเวณสะพานทางขึ้น

ที่จะขึ้นไปบนสะพานลอยนั้นปรากฏว่าบันไดทางขึ้นนั้นไม่มีราวกั้นกันคนเดินตกซึ่งถือว่าเป็นอันตรายเป็นอย่างมากก่อนหน้านี้สะพานลอยดังกล่าวนั้นมีอยู่แล้วแต่เนื่องจากว่ามีอายุเก่าแก่มายาวนานแล้วเกิดการผุพังเสียหายจึงได้รับการซ่อมแซม

แต่เมื่อมีการซ่อมแซมมาใหม่ปรากฏว่าทางช่างนั้นได้มีการเอาราวกั้นออกซึ่งเหลือแต่ทางเดินขึ้นไปและสะพานนั้นมีความสูงค่อนข้างสูงมากดังนั้นถ้าหากเดินไม่ระมัดระวังก็อาจจะทำให้ตกสะพานลงมาได้เนื่องจากว่าเราแกล้งทั้ง 2 ฝั่งนั้น

ไม่มีเลยผู้คนจึงได้มีการถ่ายรูปแล้วนำมาแชร์ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องขำๆแต่อีกหลายคนก็มองว่าการสร้างสะพานแบบนี้ไม่ควรที่จะทำเพราะเสียงอย่างมากที่จะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตยิ่งถ้าเกิดใช้สะพานนี้ในช่วงเวลากลางคืนหรือถ้าเกิดว่าคนเมามาใช้ก็อาจจะทำให้เดินตกสะพานและเสียชีวิตได้ซึ่งภาพนี้ได้มีการแชร์ลงใน Facebook ประมาณเมื่อวันที่ 11 เดือนมิถุนายนปีพศ2563

อย่างไรก็ตามข้อความนี้ได้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากมีหลายคนได้ออกมาพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการที่ช่างขอสร้างที่ก่อสร้างราวสะพานนั้นยังไม่ยอมนำเหล็กมากั้นไว้สักทีซึ่งล่าสุดนั้นทางเจ้าของ Facebook ได้ออกมาเขียนข้อความเพิ่มเติมว่า

ตอนนี้เขาได้มีการติดต่อประสานงานกับทางโฆษกกรุงเทพมหานครชื่อว่าคุณพงศกรขวัญเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้วและแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งส่งรูปภาพมาให้ทางคุณพงศกรดูเรียบร้อยซึ่งทางด้านคุณพงศกรเองรับปากว่าจะมีการประสานงานให้ทางช่างก่อสร้างนั้นนำท่านมาติดตั้งให้เร็วที่สุดอย่างไรก็ตาม

แต่ในช่วงเวลานี้ถ้าหากใครที่จะใช้สะพานตรงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ซึ่งอยู่ตรงคณะนิติศาสตร์แล้วเราก็ก็ให้ระมัดระวังในการเดินขึ้นสะพานลอยนิดนึงเพราะถ้าพลาดนิดเดียวก็อาจจะทำให้ตกสะพานจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้นั้นเอง

           จากภาพที่เห็นนั้นเกิดจากพี่ช่างก่อสร้างนั้นละเลยไม่ใส่ใจผลงานของตนเองว่างานที่ทำนั้นเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ดีหรือไม่เพราะหวังที่จะทำงานให้เสร็จแล้วก็ทิ้งงานไปดังนั้นทางที่ดีทางผู้ว่าราชการกรุงเทพฯควรจะมีการเอาผิดกับทางช่างที่มีการซ่อมแซมสะพานเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่ให้ช่างผู้รับเหมานั้นมีความรอบคอบและตรวจสอบงานของตนเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะทิ้งงานไป

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัครsagame

ข่าว สส. ปารีณาปะทะเดือดกับบุ๋มปนัดดากลางรายการแฉ 

        ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แต่ก็อดไม่ได้สำหรับข่าวของ สส. ของประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามที่ชื่อว่า สส. ปารีณาซึ่งเป็น สส. สังกัดในจังหวัดราชบุรี เพราะนับตั้งแต่ที่ สส. ปารีณานั้นมาเป็นสสได้รับคัดเลือกมาจากประชาชนชาวราชบุรีเท่าที่ติดตามผลงานของเธอ

มาเธอยังไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยถ้าหากเป็นการดูแลประชาชนแต่เธอจะมีผลงานมากมายถ้าหากต้องเป็นการทะเลาะตบตีด่าทอกับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกับอดีต  สส.ช่อ พรรณิการ์หรือแม้แต่นักการเมืองคนอื่นๆ

รวมถึงชาวบ้านร้านตลาดต่างๆและล่าสุดก็ยังมาทะเลาะกับ คุณ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี  ซึ่งไม่รู้ว่าเธอว่างมากหรือยังไงเธอถึงเที่ยวทะเลาะกับใครต่อใครไปทั่วล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 ทางรายการทีวีรายการหนึ่งที่ชื่อว่ารายการแฉ  

ซึ่งมีพิธีกรหลากหลายคนรวมทั้งหนึ่งในนั้นก็คือพิธีกรที่ชื่อว่ามดดำได้มีการเชิญ  สส. ปารีณา และดร. บุ๋มปนัดดามาออกรายการคู่กัน ซึ่งหลังจากที่ใครหลายๆคนได้ดูรายการนี้แล้วต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่อมาเจอหน้ากันจริงๆแล้ว  สส.  ปารีณา  ก็เป็นคนแค่ดีแต่พูด เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าบุ๋มปนัดดาเธอก็ไม่สามารถเสียงอะไรออกได้เลย

เป็นคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องทุกวันนี้ประชาชนพากันสงสัยว่าเราต้องเสียภาษีจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับเธอคนนี้ทำไมในเมื่อทุกวันนี้เธอยังไม่เคยทำงานอะไรเพื่อประชาชนเลยคนงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของเธอนั้นไม่เคยที่จะมีออกมาสู่สายตาของประชาชน

ยกเว้นแค่การเลียแข้งเลขานายกรัฐมนตรีซึ่งถ้าหากใครมาต่อว่านายกรัฐมนตรีของเธอแล้วก็เธอจะต้องออกมาโจมตีฟ้องร้องคนนู้นนี่นั่นด้วยไปดังนั้นเราจึงสงสัยกันว่าหาก  สส. ที่ได้เข้ามาทำงานแล้วไม่ยอมทำงานนั้นเราสามารถที่จะปลดเข้าออกจากคณะ  สส. หรือไม่หรือต้องทนให้เขาทำงานต่อไปเป็นระยะเวลา 4 ปี

เลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่ถึงจะกดเข้าได้เมื่อนั้น และจาก ที่ดูจากการแฉเมื่อวานทำให้เห็นว่า สสปารีณานั้นไม่สมควรจะเป็นส.สก็เธอไม่มีวุฒิภาวะมากพอในการที่จะเป็นผู้นำหรือการที่จะดูแลใครได้เลยและเมื่ออยู่ต่อหน้ากับทาง  ดร. บุ๋มปนัดดา ความเก่งกาจของเธอก็หายไปถึงแม้ว่าเธอจะยังยืนยันว่าเธอจะยังมีคนฟ้องร้องแจ้งความดำเนินคดีแน่นอนแต่เธอต้องการให้ทาง Doctor บุ๋ม นั้นแจ้งความดำเนินคดีกับเธอซะก่อน

เธอถึงจะมีการฟ้องกับ ดร.บุ๋มซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีความคิดอย่าง ดร.บุ๋มนั้นคงไม่เอาเวลาที่มีประโยชน์ของตนเองไปใส่ใจกับไร้สติคนนี้อย่างแน่นอน  เราอยากเห็นนายกรัฐมนตรีจัดการ ส.ส. ที่ไร้ค่าคนนี้ออกจากสภาสักทีคงต้องรอดูกันว่าจะมีวันนั้นหรือไม่

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

พ่อแท้ๆทำอนาจารลูกตนเองไว้เพียงแค่ 12 ขวบ

พ่อแท้ๆทำอนาจารลูกตนเองไว้เพียงแค่ 12 ขวบแถมยังนำรูปดังกล่าวไปโพสต์ลงทวิตเตอร์

         เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กได้รับการติดต่อจาก Cyber Report ซึ่งอยู่ที่ประเทศอเมริกาส่งมาแจ้งข้อมูลให้ดำเนินคดีกับชายไทยคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานีโดยทางไซเบอร์ Report นั้นได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าชายคนดังกล่าวนั้นได้มีการนำคลิปวีดีโอซึ่งเป็นคลิปเกี่ยวกับเรื่องของการร่วมเพศของเด็กอายุ 12 ปี

ไปโพสในทวิตเตอร์และที่สำคัญในการโพสต์นั้นมีการระบุไว้ด้วยว่าเป็นตัวของเขาเองซึ่งเป็นพ่อแท้ๆกระทำกับลูกสาวดังนั้นทางไซเบอร์ Report ของสหรัฐอเมริกาจึงได้มีการประสานงานหน้าที่ตำรวจไทยให้สืบหาตัวชายคนดังกล่าวเพื่อไปดำเนินคดี

ซึ่งในที่สุดจากการประสานงานกันทั้งอเมริกาและของไทยจนสามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้ในที่สุดโดยชายคนดังกล่าวนั้นเป็นถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชื่อว่าในหนูเขามีบ้านอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานีโดยในที่สุดแล้วเขาก็ยอมรับสารภาพว่าเขาเป็นคนโพสต์นั้นเอง

และเขาก็จะทำจริงตามที่ทางไซเบอร์ Report มีการ Report มาโดยเขาได้บอกว่าตัวเองนั้นแต่งงานมีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 1 คนก็คือลูกสาวอายุ 12 ปีคนปัจจุบันนี้เองแต่หลังจากนั้นเขาก็ทำการเลิกรากับภรรยาไปและลูกสาวของเขานั้นได้ไปอยู่กับแม่

ซึ่งตากับยายเป็นคนเลี้ยงแต่อย่างไรก็ตามลูกสาวของเขาถ้าอยู่ในช่วงของปิดเทอมก็จะแวะมาอยู่กับพ่อเป็นบางครั้งซึ่งจะอยู่ประมาณครั้งละประมาณ 3-4 วันโดยจะมาหาพ่อประมาณเดือนละ 2 ครั้งซึ่งเมื่อช่วงตอนที่ลูกสาวของเขาอายุ 12 ปีนั้นเขาได้มีการสอนเกี่ยวกับเรื่องของเพศสัมพันธ์ให้ลูกสาวทราบหลังจากนั้น

ก็เริ่มมีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวของตนเองหลังจากนั้นได้มาและก็ได้มีการถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้รวมถึงถ่ายรูปภาพเอาไว้เสร็จแล้วเขาก็นำรูปภาพดังกล่าวนั้นไปโพสต์ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเองซึ่งรูปภาพที่เขามีการถ่ายไว้กับลูกสาวของเขานั้นยังมีเก็บไว้ในตัวเครื่องและโทรศัพท์มือถือของเขานั้นยังมีรูปอนาจารของเด็กอื่นๆอีกมากมายทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาและจับคุมตัวไปดำเนินคดี

      สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางผู้ก่อเหตุเองคงจะมองเห็นว่าทวิตเตอร์นั้นเป็น Social กลางที่ตำรวจไทยจะไม่เข้ามาตรวจสอบทำให้ยากแต่การตรวจสอบได้จึงได้มีการนำรูปภาพพรุ่งนี้ไปโพสต์ในทวิตเตอร์แทนที่จะมีการโพสต์ลง Facebook Instagram แทนแต่อย่างไร

ก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็น Social ต่างประเทศแต่เขาก็จะมีคนที่คอยควบคุมข้อมูลเช็คข้อมูลต่างๆว่ามีใครลงรูปที่ผิดกฎหมายหรือไม่ซึ่งจะมีการลงรูปผิดกฎหมายก็จะมีการ Report มายังประเทศนั้นๆแจ้งเรื่องและให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีได้ซึ่งในครั้งนี้เอง นาย หนูนั้น อาจจะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนจึงทำให้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์และถูกจับกุมได้ในที่สุดนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน

เปิดให้บริการต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่ง

เปิดให้บริการต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่งแล้วในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ส่วนคนทำบัตรขับขี่ใหม่ต้องรอวันที่ 22 มืถุนายน

          มีประกาศออกมา  แล้วจากทางกรมขนส่งว่าจะมีการเปิดให้บริการสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการต่อใบทะเบียนใบขับขี่โดยจะมีการเปิดในรูปแบบของ New Normal นั่นก็คือจะมีการจำกัดจำนวนคนที่จะเข้ามาต่อใบขับขี่โดยการเปิดบริการของกรมขนส่งนี้จะมีการเปิดให้บริการในวันแรกเป็นวันที่ 8 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 นี้

ซึ่งในการเปิดการทำงานของกรมขนส่งในวันแรกนี้จะให้สิทธิ์เฉพาะกับลูกค้าที่มาติดต่อเรื่องของการต่อใบขับขี่อย่างเดียวเท่านั้นจะยังไม่รวมถึงผู้ที่จะมาทำใบขับขี่ใหม่ส่วนผู้ที่ทำใบขับขี่ใหม่นั้นทางกรมการขนส่งบอกว่าจะมีการเปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 22 เดือนมิถุนายนปีพศ2563

ซึ่งในวันที่ 22 นั้นจะเป็นการเปิดการให้บริการของกรมการขนส่งแบบเต็มรูปแบบส่วนการเปิดการให้บริการในวันที่ 8 นี้จะเป็นการต่อใบขับขี่และไม่มีการอบรมไม่อนุญาตให้มีการอบรมที่สำนักงานซึ่งหากใครจะมาใช้บริการในวันที่ 8 นี้

จะต้องมีการเข้าไปทำการกดจองคิวก่อนผ่านทางแอพพลิเคชั่น dlt Smart queue ซื้อลูกค้าจะต้องมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นนี้ไว้ที่โทรศัพท์มือถือหลังจากนั้นก็เข้าไปทำการลงทะเบียนและไปทำการจองคิวโดยทางกรมการขนส่งนั้นจะเรียกผู้ที่ไปทำการต่อใบขับขี่ตามคิวที่มีการได้รับ

ซึ่งถ้าหากใครไม่ทำการจองคิวก็จะไม่ได้รับการเรียกไปต่อใบขับขี่และถ้าใครไม่จองคิวเมื่อไปถึงกรมการขนส่งก็จะไม่ได้รับการต่อใบขับขี่เช่นเดียวกันโดยมีการยึดคิวจาก Application นี้เท่านั้นและเมื่อไปถึงกรมการขนส่งนั้นจะต้องมีการจัดกฎระเบียบข้อบังคับผู้ที่ไปติดต่ออย่างเคร่งครัดซึ่งถ้าหากไทยไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยไป

ก็จะไม่ให้เข้าไปต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งรวมถึงเมื่อมาถึงที่กรมการขนส่งแล้วทางเจ้าหน้าที่จะมีการยืนรออยู่ที่หน้าประตูเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ที่จะมาใช้บริการว่ามีอาการเป็นไข้ตัวร้อนหรือไม่โดยเจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจวัดไข้ของผู้ที่มาติดต่อก่อนถึงจะอนุญาตให้เข้าไปต่อใบขับขี่ได้นั่นเอง สำหรับวันที่ 8 มิถุนายนนั้นจะยังเปิดให้บริการเฉพาะบางรายการเท่านั้นที่ประชาชนจะสามารถไปทำรายการที่กรมการขนส่งได้

จะยังไม่เปิดบริการทุกรายการดังนั้นผู้ใช้บริการในวันที่ 8 นั้นจะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบผ่านแอพพลิเคชั่นก่อนว่ามีบริการไหนบ้างที่สามารถไปติดต่อได้ในวันที่ 8 แต่ถ้าเกิดจะสะดวกจริงๆแนะนำว่าให้ไปติดต่อกรมการขนส่งในวันที่ 22 มิถุนายนจะดีกว่าเพราะว่าจะเปิดทำรายการได้ทุกรายการนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  bk8

ญาติผู้เสียชีวิตจากการติดไวรัสโควิด-19

ญาติผู้เสียชีวิตจากการติดไวรัสโควิด-19 รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเหตุเพราะถูกห้ามไม่ให้ดูศพ 

       ในขณะนี้ทุกประเทศต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวันยิ่งประเทศในแถบอเมริกาและยุโรปแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันนั้นมีค่อนข้างเยอะและในขณะเดียวกันประชากรของคนในประเทศดังกล่าวก็ยังไม่มีความเชื่อในเรื่องของการติดเชื้อไวรัสมาเท่าไหร่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการที่จะลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

จึงทำให้ประชากรของฝั่งทางประเทศอเมริกาและยุโรปยังคงต้องพบกับปัญหาการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวันและยิ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19มาขึ้นเท่าไหร่ผู้คนก็ยิ่งพากันเครียดและตื่นตระหนกหวาดกลัวกันมากขึ้นเท่านั้นมีรายงานข่าวมาจากประเทศเม็กซิโกถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

โดยทางบุรุษพยาบาลเป็นผู้เล่าเหตุการณ์ซึ่งเขาถูกทำร้ายจากทางด้านของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเนื่องจากว่าทางญาติทราบข่าวว่าผู้ป่วยที่เป็นญาติของพวกเขาที่ถูกส่งตัวมารักษาตัวจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เสียชีวิตลง

ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมากทุกคนต่างต้องการที่จะเห็นหน้าศพเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งตามปกติทางโรงพยาบาลจะให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมชมได้อยู่แล้วแต่ในกรณีที่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเราต่างก็รู้กันดีอยู่ว่าตุ๊กโรงพยาบาลจะมีการป้องกันเชื้อโรคที่แพร่ออกจากศพไปยังบุคคลอื่นต้องมีความระมัดระวังและควบคุมการศพให้เรียบร้อยมีการฉีดยาฆ่าเชื้อแล้วใส่ถุงควบคุมโรคเป็นอย่างดี

ดังนั้นได้ของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้วเสียชีวิตจะไม่สามารถเห็นหน้าศพของคนที่ติดเชื้อได้เลยซึ่งที่ประเทศเม็กซิโกเองก็เป็นอย่างเช่นประเทศอื่นๆเหมือนกันแต่เนื่องจากญาติของคนที่เสียชีวิตนั้นค่อนข้างมีอารมณ์รุนแรงและอาจจะเกิดความเครียดที่ไม่ได้เห็นคนตายเนื่องจากว่าคนตายเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว

จึงได้ก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลด้วยการชกต่อยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำภาพใบหน้าที่บวม ออกมาให้ประชาชนได้เห็นกันผ่านทาง facebook ส่วนตัวของตนเองแต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทางโรงพยาบาลได้ทำก็คือการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดมากขึ้น 

         บุคคลควรได้ตระหนักถึงภัยร้ายที่เกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19และควรจะช่วยเหลือกันในการที่จะลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซึ่งไม่ควรจะโทษว่าเป็นความผิดของคนใดคนหนึ่งหรือไม่ควรที่จะให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบแต่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันถึงจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในครั้งนี้ได้

มอเตอร์ไซเก่าที่มีราคา

วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องรถมอเตอร์ไซรุ่นเก่าๆกัน ซึ่งรถมอเตอร์ไซในรุ่นเก่าๆนี้ก็ยังเป็นกระแสที่นิยมในปัจจุบันนี้เช่นกันสำหรับสายแต่งสายซิ่งสายใช้งานกันเลยทีเดียว

และวันนี้จะมีรถรุ่นอะไรกันบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า

HONDA Sonic125 ถ้าพูดถึง HONDA Sonic125

ไม่มีใครไม่รู้จักกันเลยสำหรับรถกระเทย4จังหวะเป็นรถยอดฮอตประเทศไทยในอดีตนั่นเองสำหรับโฉมที่ยังกลับมาทำเป็นโฉม1และโฉม2  สำหรับโฉมที่1นั้นก็จะเป็นตัวแรก สำหรับโฉมที่2ก็จะเป็นทรงอุลตร้าแมนถือว่าก่อนหน้านี้ก็ได้กลายเป็นรถเศษเหล็กไปสักพักใหญ่ๆก่อนที่ช่วงหลังจะมีช่างที่เก่งๆหรือว่าจะมีสายที่นิยมปั้นได้นำเอากลับมาเล่นกันอีกครั้ง

ถือได้ว่าเป็นรถที่ทรงคุณค่ากันเลยทีเดียวสำหรับโซนิค125ไม่ว่าจะแรงแล้วยังแต่งได้เยอะอีกและก็การแต่งนั้นก็ยังแต่งได้หลายแนวถือว่ายังไม่ตกยุคสำหรับรถมอเตอร์ไซ Sonic125แต่ก็ไม่ได้เป็นที่แผร่หลายอย่างมากมายหรือว่าเป็นกระแสที่โด่งดังอะไรมากมายสำหรับโซนิค125แต่สุดท้ายก็คือล่าสุดนี้ก็ไม่มีใครนำเอามาเล่นนิยมกันสักเท่าไหร่

YAMAHA  Mio115 ถ้าพูดถึงโฉมที่นิยมกัน

ในทุกๆวันนี้ใครๆก็คงจะรู้จักสำหรับมีโอตัวแรกหรือว่ามีโอโฉมแรกนั้นเองซึ่งเป็นรถออโตเมติกคันแรกจากค้ายยามาฮ่านั่นเอง สำหรับในช่วงแรกๆนั้นคนค่อนข้างที่จะมองว่านั่นมันรถอะไรบ้างคนก็ไม่เข้าใจจริงๆแล้วถือได้ว่าเป็นรถสไตล์ใหม่ในยยุคนั้นเพราะว่ามันเป็นรถเกียออโตไม่มีเกียไม่ครัชที่จะต้องมาบีบหรือต้องมาตบซึ่งเป็นรถออโตเมติกสายพาน

แต่ถือว่าสำหรับในยุคนั้นมันยังเป็นของแปลกคนยังไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไหร่และในเวลาที่ผ่านๆมามีโอโฉมใหม่ๆก็ได้ตีตลอดเข้ามาแบบว่าขายดีกันเลยก็ว่าได้ในยุคสมัยนั้นจะมีทั้งมีโอโฉมสองตา โฉมตาเดียวที่เป็นตาโตแต่ในช่วงหลังๆมานี่

ก็ยังมีคนบางส่วนที่นิยมฮิตเอารถ YAMAHA  Mio115นำเอากลับมาเล่นใหม่ซึ่งเป็นรถมีโฉมแรกนั้นเองและที่คนนิยมนำเอากลับมาเล่นนั้นก็จะมีโฉมลายจีนหรือว่ามีโฉมตัวท็อปอะไรหลายอย่างก็จะมีโฉมเยอะแยะที่แตกต่างกันออกไปแต่สำหรับในช่วงนี้รถมีโอรุ่นนี้ซึ่งเป็นมีโอที่นิยมนำเอากลับมาเป็นอย่างมากที่สุดในตอนนี้นั้นเองและสำหรับราคาในตอนนี้มันก็ไม่แพงอะไรมากราคาสภาพตั้งแต่ดิบๆเลยก็เริ่มที่8,000บาท20,000บาทขึ้นไป