โครงการเราไม่ทิ้งกัน

        มีกระแสดราม่าอย่างต่อเนื่องกับโครงการเราไม่ทิ้งกันที่รัฐบาลตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อจะแจกเงินให้กับประชาชนเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่กำลังประสบปัญหาไม่มีเงินพอใช้จ่ายกันในขณะนี้ได้เงินเยียวยาที่ทางรัฐบาลจะให้นั้นมีการระบุเอาไว้ว่าให้เดือนละ 5,000 บาทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3 เดือนด้วยกัน

หลังตั้งแต่ประชาชนมีการลงทะเบียนเอาไว้ก็มีคนที่ได้รับเงินเยียวยาไปแล้วบางส่วนและบางส่วนก็ถูกปฏิเสธไม่ให้รับเงินเยียวยา ซึ่งปัญหาดราม่าเกิดมาจากสำหรับคนไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นทางระบบคัดกรองวิธีการคัดกรองข้อมูลอย่างไม่เป็นธรรม

และไม่ถูกต้องเพราะคนส่วนใหญ่ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เงินเยียวยา 5000 บาทนั้นพบว่ากลับเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากหลายคนมีเงินติดตัวไม่ถึง 100 บาทในขณะที่คนที่ได้รับเงินเยียวยาไปก่อนหน้านั้น 5,000 บาทกับเป็นกลุ่มคนที่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเป็นล้านๆและมีเงินไปทำเสริมสวย

ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบพบข้อมูลแบบนี้ก็ทำให้เกิดกระแสดราม่าเป็นอย่างมากจนในขณะนี้โครงการเราไม่ทิ้งกันยังไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนเพิ่มได้เลยซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการให้ประชาชนที่ยังอยู่ระหว่างการรอว่าจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ได้มาส่งข้อมูลเพิ่มโดยทั้งส่งเป็นสำเนาบัตรประชาชนส่งเป็นข้อมูลยืนยันเกี่ยวกับเรื่องอาชีพของตนเอง

จริงๆที่เป็นรูปถ่ายเลยให้ถ่ายหน้าร้านที่ตัวเองขายของอยู่รวมถึงให้ถ่ายอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ว่าทำอาชีพเกี่ยวกับอะไรซึ่งจะต้องมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในวันที่ 20 เมษายนและภายในวันที่ 22 เมษายนนี้โครงการเราไม่ทิ้งกันในก็จะมีการปิดโครงการไม่ให้ลงทะเบียนเพราะขณะนี้จำนวนผู้ลงทะเบียนมีมากจนเกินไป

ซึ่งถ้าดูแล้วรัฐบาลแทบจะไม่มีงบประมาณนำมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนนั่นเองโดยก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาก็ได้มีการออกมาประกาศว่าเงินเยียวยานั้นเพียงพอที่จะจ่ายในกรณีแค่คนละ 5000 บาทเท่านั้น

ส่วนหลังจากนี้จะต้องรอเงินกู้ซึ่งต้องรอการอนุมัติจาก  พ.ร.ก.ฉุกเฉินตึกก่อนซึ่งภายหลัง ทางโฆษกของนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาแก้ข่าวว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดจริงๆแล้วทางรัฐบาลมีเงินที่จะช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้วซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ 

สำหรับโครงการนี้เท่าที่ดูแล้วแทบจะไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริงเลยเพราะทุกคนต่างก็ได้รับความเดือดร้อนกันทั้งสิ้นเอาเข้าจริงๆทางรัฐบาลควรจะพิการแต่ก็คนโดยที่ไม่ต้องมาสร้างเงื่อนไขให้วุ่นวายกันอยู่อย่างนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำนั่นก็คือการดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ซึ่งถ้าหากไม่สามารถแจกเงินได้ถึง 15,000 บาทก็สามารถเฉลี่ยเงินออกมาคนละ  10000 บาทต่อครัวเรือนก็ได้เพื่อที่จะได้รับเงินเยียวยากันทุกครัวเรือนอย่างทั่วถึงโดยสามารถดูรูปแบบได้จากประเทศสิงคโปร์ที่เขามีการดูแลประชาชนของเขาอย่างทั่วถึงนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sexybaccarat

ยืนรอรับของแจกอยู่ดีๆกลับมีรถเก๋งวิ่งขึ้นมาเสยจนหลายคนได้รับบาดเจ็บ

              มีรายงานข่าวเข้ามาเมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายน  ปีพศ. 2563 ว่าที่จังหวัดชลบุรีตรงบริเวณหน้าซอยชัยพรวิถี 21 ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีลานกว้างโดยที่นี่ได้มีการจัดกิจกรรม นำของมาแจกให้กับชาวบ้านซึ่งมีการตั้งเต็นท์แจกของกันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เดือนเมษายนแล้วและวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการครบกำหนดการจัดกิจกรรมการแจกของระหว่างที่ชาวบ้านกำลังรอการแจกของอยู่นั้น

ปรากฏว่าอยู่ดีๆก็มีรถเก๋งวิ่งเข้ามาพุ่งเข้าชนชาวบ้านที่กำลังยืนต่อแถวเพื่อรอรับของรวมถึงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณนั้นด้วยทำให้ชาวบ้านหลายคนได้รับบาดเจ็บซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไว้ได้ทราบชื่อว่านายกันตพัฒน์ด้วยขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนั้น

  นายกันตพัฒน์มีอาการตกใจเป็นอย่างมากโดยเขาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เขารู้สึกเสียใจมากและตัวเขาเองไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ในขณะที่เขาขับรถมานั้นเขาได้มีการหักหลบมาทางซ้ายและเนื่องจากรถวิ่งมาด้วยความเร็วและด้วย

สายตาของเขาไม่ค่อยดีเนื่องจากสายตาสั้นทำให้เขามองไม่เห็นว่ามีการต่อแถวรอรับแจกของกันอยู่จึงทำให้รถมีการพุ่งชนไปที่มอเตอร์ไซค์และโดนผู้คนที่ยืนต่อแถวกันเป็นจำนวนมากครั้งนี้เขาให้เหตุผลว่าตรงที่มีการแจกของกันนั้นไม่ได้มีการติดป้ายแจ้งล่วงหน้าเอาไว้ทำให้เขาไม่ได้ระวังขณะที่มีการขับรถอีกทั้งสายตาของเขานั้นสั้นถึง 700

ทำให้การมองเห็นของเขาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรอย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวของเขาเพื่อไปตรวจหาสารเสพติดและหาวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่ก็ไม่พบทั้งสองอย่างซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการดำเนินคดีในข้อหาขับรถ

โดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและนายกันนภัทรยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมถึงแต่ค่าเสียหายให้กับรถจักรยานยนต์หลายคันที่ถูกรถของนายกันตพัฒน์พุ่งชน

         เหตุการณ์ในครั้งนี้มีพยานรู้เห็นเป็นจำนวนมากรวมถึงสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดชลบุรี  นายวินัย อินพิทักษ์ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเพราะเป็นผู้กำลังมอบของบริจาคให้กับประชาชน จากการสำรวจผู้ได้รับบาดเจ็บพบว่ามีคนที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้นเจ็ด คนและมีรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้นหกคัน 

     เหตุการณ์ใน ครั้งนี้นายกันตพัฒน์ถือว่ามีความผิดอย่างมากเนื่องจากขับรถแซงทางด้านซ้ายและที่สำคัญหากรู้ว่าตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการสายตาสั้นก็ควรจะมีการใส่แว่นหรือไม่ควรขับรถเองเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  เล่นหวยลาวยังไงให้ถูก

ผบ.ทบ.กองทัพไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง

ซึ่งทางกองทัพนั้นไม่ได้อยู่ใต้รัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้งกองทัพมีสถานะพิเศษทางการเมืองไทยที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนจึงทำให้เมื่อเกิดสถานการณ์อะไร ผบ.ทบ. ก็จะต้องออกมาแถลงอะไรอยู่ตลอดเรื่องนี้มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ผบ.ทบ. และถ้าบอกว่าใครที่ได้ติดตามดูข่าวของ ผบ.ทบ.ได้มีการเปิดบ้านให้ คุณสาธิต เซกัมส ที่เป็นนักธุรกิจเชื้อสายอินเดียวเข้าพบ 

ซึ่งได้เป็นการเข้าไปเล่าความไม่สบายใจของ คุณสาธิต เซกัมส ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของการปราศรัยแต่ถ้าย้อนกลับไปหนึ่งวัน คุณอานนท์ หรือว่า เพนกวิน ได้เดินทางไปหาถึงหน้ากองทัพบกของเข้าพบโฆษกกองทัพบกทำไมถึงเรียกว่าม๊อบเยาวชนม๊อบมุ้งมิ้งสุดท้ายปิดประตูใส่หน้าไม่ให้เข้าพบ

ในอีกฝ่ายเข้าได้และนี่มันเป็นการเลือกปฏิบัติใช่หรือไม่ในบทบาทของกองทัพที่ดีที่เหมาะสมในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยก็คือผู้นำด้านกองทัพได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของสถานการณ์ทางการเมืองไม่ได้นี่มันเป็นเรื่องของทางฝ่ายการเมืองมันไม่ใช่เรื่องของกองทัพภาระกิจของกองทัพง่ายๆสั้นๆตรงไปตรงมาสร้างกองทัพที่มันมีประสิทธิภาพเข้มแข็ง

พร้อมที่จะปกป้องประเทศหากว่าได้มีการรุกรานภาระกิจของกองทัพมีง่ายๆสั้นๆแค่นี้เองเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของภาพในมันเป็นเรื่องของตำรวจมันเป็นเรื่องของทางฝ่ายบริหารมันไม่ใช่เรื่องของกองทัพและที่มีข่าวว่า ผบ.ทบ. นั้น

ร้องไห้มันเป็นความจริงที่สื่อไปลงข่าวว่า ผบ.ทบ. น้ำตาคอลอย่าไปลงข่าวแบบนั้นการที่มีน้ำตาคอลนั้นมันเป็นเรื่องของคนแก่ปกติของคนที่มีอายุมากบางครั้งน้ำตาแห้งต้องหยอดน้ำตาเทียมเราคิดว่าท่านแอบใสยาหม่องเอาไว้และที่ครั้งก่อนมันเป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า

ซึ่งคำกล่าวที่ว่าม๊อบนักศึกษาจะใหญ่ขึ้นหากว่ารัฐบาลนั้นไม่ได้ตอบในข้อเรียกร้องพวกคุณคิดว่าท่าทีหลังจากนี้มันจะเป็นอย่างไรและพอเรามาถึงคำว่าจะต้องยุบสภาล่าสุดได้มีอาจารย์นพดล กรรณิการ์ก็ได้มีการเสนอผลสำรวจในภาคสนามเรื่องยุบสภาหรือปรับรัฐมนตรีกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ1,437

ตัวอย่างเรามาดูซูเปอร์โพลกันที่ชูผลสำรวจ “ยุบสภา กับ แก้ไขสถานการณ์ได้ “ และในขณะที่ร้อยละ20.8ได้บอกว่าปรับคณะรัฐมนตรีช่วยได้และถามถึงจุดยืนทางการเมืองของประชาชนก็ได้พบว่าส่วนใหญ่แล้วร้อยละ57.3ไม่สนับสนุนรัฐบาลในขณะที่ร้อยละ21.8ได้สนับสนุนร้อยละ20.9ระบุเป็นพลังเงียบ

นอกจากนี้ประเด่นที่ร้อยละ20.9เทไปทางไม่สนับสนุนทางรัฐบาลถ้าจะให้เราเชื่อตัวเลขนี้มันรวมกันแล้วก็เกือบจะ80%แล้วและเมื่อได้นำเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบแสดงข้อมูลแนวโน้มจุดยืนทางการเมืองพบว่ากลุ่มผู้ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลนั้นได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 ดีไหม

แม่ปล่อยให้ลูกเปิดหมวกเล่นเปียโนหาทุนเรียนไม่หวั่นแม้มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

   ไม่เห็นการแชร์ภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นเปียโนอยู่ตรงบริเวณทางเดิน sky walk  สาธรโดยเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวกำลังนั่งเล่นเปียโน โดยมีแม่คอยนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ  ซึ่งหลายคนที่ได้มาเห็นคลิปน้องเล่นเปียโน ตรงบริเวณsky walk

ต่างก็ออกมาพูดกันว่าทำไมแม่ถึงปล่อยให้น้องเล่นเปียโนในขณะที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ในขณะนี้ แล้วยังมีการแชร์ข้อความที่แม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ออกมาตอบโต้ชาวโซเชียลที่มาวิพากษ์วิจารณ์ลูกสาวของเขา

ซึ่งมีบางข้อความที่แม่ของเด็กได้ออกมาตอบโต้คนในโซเชียลยกตัวอย่างเช่นทำไมถึงไม่ให้ลูกหยุดออกมาเล่นเปียโนไม่กลัวการติดเชื้อไวรัสเข้าอีกเหรอคะ

ซึ่งทางคุณแม่ของเด็กเองก็ได้ไม่ตอบโต้กับคนที่มาสอบถามว่าถ้าหยุดแล้วจะจ่ายค่าเทอมแทนหรือเปล่าถ้ากลัวติดเชื้อจะต้องหยุดหายใจด้วยหรือไม่ซึ่งหลายคนไม่เห็นข้อความนี้ก็เกิดความไม่พอใจแม่ของเด็กเป็นอย่างมาก 

        หลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ออกมาข้างนอก ก็ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามแม่ของเด็กถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งทางแม่ของเด็กเองก็ได้บอกว่าตนเองเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและรู้วิธีการเลี้ยงลูกอยู่แล้วซึ่งตนเองก็รักลูกของตนเองมากดังนั้นเมื่อลูกตนเองมีพรสวรรค์พิเศษจึงอยากจะสนับสนุนลูก ซึ่งลูกสาวของตนเองนั้นเป็นเด็กเล่นเปียโนมาก

ดังนั้นต้นทุนสนับสนุนให้ลูกเรียนเปียโนแต่ค่าเล่าเรียนในการเรียนเปียโนนั้นค่อนข้างแพงคิดเป็นชั่วโมงละ 1,000 บาท แล้วตอนนี้ทางโรงเรียนสอนเปียโนก็มีการคิดค่าเทอมเพิ่มขึ้นจากชั่วโมงละพันมาเป็นชั่วโมงละ 2,000 บาท

และการโรงเรียนแต่ละครั้งต้องลงเรียนเป็นคอร์สซึ่งคอร์สนึงต้องลง 6 ชั่วโมงถ้าคิดเป็นจำนวนเงินแล้วก็คิดเป็นคอร์สละ 10,000 บาท ซึ่งทำให้ภาระการหาเงินเพิ่มมากขึ้นแต่ในเมื่อลูกสาวยังต้องการที่จะเรียนเปียโน ตนเอง

จึงให้ลูกหาประสบการณ์ด้วยการให้ลูกมาหาเงินลงคอร์สเรียนเปียโน ด้วยตนเองโดยทางคุณแม่ของน้องยืนยันว่าได้มีการทำเรื่องขอกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้รับการอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งตัวแม่เองก็ไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้น้องมาทำการเปิดหมวกแต่น้องเต็มใจที่จะมาทำเอง ส่วนเรื่องหลายคนที่ห่วงว่าน้องจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นคุณแม่เองก็ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการอนามัยและให้น้องหมั่นล้างมืออยู่บ่อยๆ น้องยังต้องเรียนเปียโนอยู่ตลอดเพื่อพัฒนาฝีมือดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายจึงทำให้น้องต้องออกมาหาเงินเพื่อไปลงคอร์สเรียน 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์ขั้นต่ำ 1 บาท

พบศพหญิงชราชาวจีนอนเสียชีวีตอยู่ภายในบ้านร้างเพียงลำพัง คาดว่าอาจถูกข่มขืน

               ช่วงเวลา 15:00 นของวันที่ 21 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านร้างแห่งหนึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่รกร้างมีบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง

ตั้งอยู่กลางป่าซึ่งภายในมีข้าวของเครื่องใช้โดยชาวบ้านที่มาพบศพคนแรกบอกว่าที่บริเวณตรงนี้เป็นบ้านร้างและได้มีหญิงชราคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปีได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านร้างแห่งนี้ซึ่งหญิงชราคนดังกล่าวนั้นเป็นหญิงชาวจีน

และเธอมีอาชีพเป็นหมอดูซึ่งเธอมักจะเดินทางออกจากบ้านร้างแห่งนี้แล้วไปบริเวณชายหาดเพื่อทำการขอดูดวงให้กับนักท่องเที่ยวแลกกับเงินซึ่งหญิงชราจีนคนนี้อยู่อาศัยที่บ้านหลังนี้คนเดียวมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้วโดยตลอดเวลาที่พบเห็นกันนั้นก็เคยพูดปะพูดคุยกันหญิงชราเป็นคนอัธยาศัยดีและสามารถพูดคุยกับทุกคนทั่วไปได้

ซึ่งเธอไม่เคยพบเห็นว่าหญิงชราจะมีญาติพี่น้องมาหาแต่อย่างใดชาวบ้านหลายคนไม่ได้มีการสงสัยว่าหญิงชราหายไปไหนจึงทำให้ไม่รู้ว่าหญิงชรานั้นถูกฆ่าเสียชีวิตตายคาบ้านร้างในวันที่พบศพนั้นมีคนเดินผ่านมาเราได้กลิ่นเหม็นจึงได้เดินเข้ามาดูจึงพบศพของหญิงชราเสียชีวิตภายในบ้านร้างซึ่งสภาพของศพนั้นน่าจะมีการตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

แต่ลักษณะของศพนั้นคาดว่าเหมือนจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าและมีอาการนอนเหมือนขาถ่างซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการสันนิษฐานกันว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจาก 2 สาเหตุอาจจะเป็นไปได้ว่าหญิงชรานั้นป่วยตาย

เนื่องจากว่าอยู่คนเดียวแล้วไม่มีใครมาดูแลเมื่อมีอาการล้มลงไปซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตไปในขณะที่อยู่ระหว่างการแต่งตัวก็ได้หรือเหตุการณ์หนึ่งก็อาจจะถูกข่มขืนเพราะบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ที่มีก่อสร้างมาทำงานเยอะมากซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนงานก่อสร้างบุคคลมาแล้วข่มขืนแล้วฆ่าหญิงชรากายก็เป็นได้

ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาข้อมูลหลักฐานว่าหญิงชราคนดังกล่าวนั้นเป็นใครมาจากไหนเนื่องจากไม่มีเอกสารต่างๆบอกถึงชื่อนามสกุลหรือว่าที่อยู่ที่จะสามารถติดต่อเครือญาติของหญิงชราคนดังกล่าวได้เลยและทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามหาหลักฐาน

เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงชราว่าเกิดจากการป่วยหรือการถูกข่มขืนกระทำชำเราหากมีการถูกข่มขืนก็จะได้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก

คืบหน้าคดีน้องอิ่มบุญกับน้องอมยิ้ม

คืบหน้าคดีน้องอิ่มบุญกับน้องอมยิ้มเจ้าหน้าที่กองปราบเชื่อว่าเด็ก กินสารพิษเข้าไปเพราะแม่วางยา 

         เมื่อวันที่ 24 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแถลงการณ์ผ่านทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีของเด็กหญิงอิ่มบุญกับเด็กหญิงอมยิ้มของเด็กหญิงที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการสงสัยกันว่าแม่ของเด็กที่ชื่อว่าแม่ปุ๊กจะเป็นคนที่วางยาเด็กทั้งสองคนด้วยก่อนหน้านี้

แม่ปุ๊กได้มีการประกาศรับเงินบริจาคจากเรา Social เนื่องจากว่าลูกสาวทั้งสองคนของเธอนั้นป่วยด้วยโรคประหลาดซึ่งไปทำการรักษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถวินิจฉัยออกมาได้ว่าเป็นอะไรจนในที่สุดลูกสาวคนแรกที่เป็นน้องอิ่มบุญก็เสียชีวิตและต่อมาหลังจากนั้นไม่นานน้องอมยิ้มก็มีอาการเหมือนกับพี่สาวและเมื่อแม่พกพาไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทางโรงพยาบาล

ก็ไม่สามารถตรวจหาเชื้อได้ว่าเกิดเป็นโรคอะไรซึ่งหลังจากนั้นไม่นานทางคุณหมอเองก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวนี้ว่าน้องน่าจะมีการถูกวางยาพิษซึ่งมีการวางยาให้ผสมในอาหารให้กินและอาจจะมีการวางยามานานแล้ว

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนทำให้รู้ว่าเด็กหญิงอิ่มบุญและเด็กหญิงอมยิ้มนั้นทั้งคู่ไม่ใช่ลูกแท้ๆของแม่ปุ๊กโดยได้มีการติดต่อไปยังคุณแม่ของน้องอมยิ้มจึงทำให้ทราบว่าที่จริงแล้วน้องอมยิ้มนั้นมีแม่อีกคนหนึ่งที่ชื่อว่าเอมเธอท้องในขณะที่ตนเองยังไม่พร้อมจึงได้มีการประกาศหาคนมาอุปการะและแม่ปุ๊กก็เป็นคนติดต่อขอไปรับไปเลี้ยงผึ้งนางสาวเอ็มเห็นว่าแม่ปุ๊กนั้น

เป็นเภสัชกรคิดว่าน่าจะดูแลลูกของตนเองได้ดีกว่าตัวเองทำให้ทำการยกลูกสาวให้กับแม่ปุ๊กโดยที่ไม่ได้มีการทำเอกสาร การโอนเป็นลูกบุญธรรมให้แต่อย่างใดและที่สำคัญแม่ปุ๊กยังได้มีการหลอกเอาเอกสารบัตรประชาชนของนางสาวเอมมาไว้

สำหรับเปิดบัญชีเพื่อให้คนบริจาคโอนเงินเข้ามาบัญชีของนางสาวเอมโดยเงินในนั้นแม่เปิ้ลเป็นคนเก็บเอาไว้ใช้ส่วนตัวโดยไม่เคยนำเงินดังกล่าวออกมาเป็นค่ารักษาให้กับเด็กหญิงอมยิ้มและเด็กหญิงอิ่มบุญเลยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการหาหลักฐานเพิ่มเติม

เพื่อที่จะเอาผิดนางสาวปุ๊กในการที่รับเด็กมาเลี้ยงแล้วทำการทารุณกรรมเด็กโดยให้เด็กไม่ค่อยกินยาพิษเพื่อหวังเงินบริจาคอย่างไรก็ดีตอนนี้น้องอมยิ้มนั้นได้ถูกจังเจ้าหน้าที่พัฒนาเด็กและสังคมรับตัวไปดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนนางสาวกนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ส่งเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ขอขอบคุณ  เว็บพนัน ดีที่สุด 2020

วินมอเตอร์ไซค์เอามีดขู่ฟูดแพนด้าบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจแต่ใส่ชุดเป็นวิน

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมนี้เองซึ่งจะมีคนโพสต์คลิปเกี่ยวกับเรื่องของ ชายหนุ่มคนหนึ่งใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซค์ขึ้นบอกว่าตัวเองนั้นเป็นตำรวจและชักมีดขึ้นมาบอกว่าเป็นเพราะฟูดแพนด้าจึงทำให้วินมอเตอร์ไซค์ไม่ค่อยมีเงิน

เดินทางฟู้ดแพนด้าก็ได้บอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดผมเป็นฟู้ดแพนด้าทำงานแบบนี้มาตั้งหลายปีแล้วมันไม่ผิดหรอกมันเกี่ยวกับว่าลูกค้าจะเลือกใช้บริการของใครเป็นอย่างนั้นเขาก็พยายามถือมีดและวิ่งเข้ามาที่จะแทงหนุ่มขับฟู้ดแพนด้า

หลังจากนั้นทางพนักงานที่ขับฟู้ดแพนด้า ก็ได้ออกมาโพสต์คลิปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยบอกประมาณว่าเวลาช่วงตอน 13:30 นเท่านั้นถูกลูกค้าสั่งให้ไปส่งของที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งหลังจากนั้นตอนนี้เขากำลังจะเลี้ยวเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์เพื่อส่งของเข้าพบกับวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งใส่เสื้อเบอร์ 3 เดือนเข้ามาหาเขาพร้อมกับบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจและบอกว่าเป็นเพราะเขาแท้ๆ

จึงทำให้วินมอเตอร์ไซค์ไม่มีรายได้อะไรเลยทำให้ตอนนี้แทบไม่มีเงินจะเลี้ยงข้าวจะกินข้าวจะทำอะไรแล้วหลังจากนั้นเขาก็ได้ออกมาบอกว่ามันไม่ได้เป็นความผิดอะไรของพนักงานส่งอาหารอะไรเลยมันอยู่กับว่าทั้งลูกค้านั้นจะเลือกใช้บริการส่งอาหารจากวินมอเตอร์ไซค์

หรือเว็บไซต์อะไรบ้างซึ่งหลังจากนั้นทางวินมอเตอร์ไซค์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจโกรธจึงหยิบมีดมาจากกระเป๋าเตรียมที่จะทำชายหนุ่มคนนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็หลบได้ทันทีพร้อมกับด่าเค้าซึ่งก่อนหน้านี้วินมอเตอร์ไซค์คนนี้ก็ได้ทำการตัวแทนเขาไปแล้วซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ด่าไปนิดนึงและก็เข้าไปส่งของให้ลูกค้าต่อไปแล้วก็ขับรถออกไปจากอพาร์ทเม้นท์

ซึ่งพบว่าวินมอเตอร์ไซค์เบอร์ 3 นั้นขับรถ มอเตอร์ไซค์ตามเขามาถึงถนนใหญ่หลังจากนั้นก็พยายามตัดหน้าเขาจนรถเขาแทบล้มหลังจากนั้นเขาจึงจอดรถวินมอเตอร์ไซค์ก็จอดรถชั้นเดียวกันมอเตอร์ไซค์นั้นทำท่าเหมือนเฉยต่อเขาแล้วเหมือนจะเดินไปหลัง

จากนั้นเขาก็บอกว่าคุณไม่คิดจะขอโทษผมหัวเราะเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ผิดพร้อมกับกิ๊บนี่ขึ้นมาอีกครั้งซึ่งเป็นคนนั้นก็พยายามที่จะเข้ามาแทนเขาอีกครั้งแต่เขาก็สามารถที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์หนีไปได้จึงอยากเตือนกับคนที่ได้ไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์แถวๆนั้นพอดีเพราะว่าหักจะขึ้นวินเลข 3 ก็ให้ระวังด้วยเพราะวินมอเตอร์ไซค์คนนี้พกมีดด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 ฝากเงิน

4ชาวบ้านหลงป่าบนเทือกเขาลำพาด อำเภออ่างทอง จังหวัดพิษณุโลก

        วันที่ 15 พฤษภาคมปี พ.ศ. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านคนหนึ่งเข้ามาแจ้งขอความช่วยเหลือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากว่าลูกชายของเขาวัย 13 ปีและญาติอีก 3 คน

รวมกันทั้งหมดแล้ว 4 คนได้หายออกจากบ้านไปเป็นเวลา 2 วันแล้วโดยทุกคนหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2563 โดยทั้ง 4 คนได้พากันไปหาของป่าที่บริเวณเขารำพาดและหลังจากนั้นก็ยังไม่กลับออกจากป่ามาอีกเลยโดย ผู้ที่เข้าแจ้งความนั้นก็คือนายบุญยืนด้วยเขาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มีทางญาติๆทั้งหมด 3 คน

ได้เดินทางมาที่บ้านเพื่อมาชักชวนลูกชายของเขาไปเก็บของป่ามาขายเพราะว่าตอนนี้ลูกมะกอกกำลังขายได้ราคาดีมีคนชอบซื้อทั้งหมด 4 คนจึงพากันเดินทางออกไปเพื่อไปเก็บของป่าที่เป็นรูปมาก็มาขายโดยของที่เตรียมไปนั้นทุกคนจะเตรียมน้ำไปคนละขวดและก้าวไปคนละห่อพร้อมกับมีดกันคนละเล่มเพียงเท่านั้นเพราะตั้งใจว่าจะไปเก็บช่วงเช้าและสายๆก็จะกลับมาหลังจากที่ออกไปเก็บของป่ากันแล้วช่วงประมาณ 15:00 น.

นางแดงซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ไปด้วยกันในการเข้าไปเก็บของป่าก็โทรกลับมาหานายบุญยืนบอกว่าตอนนี้กำลังจะกลับแต่หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครกลับมาจนวันรุ่งขึ้นออกวันที่ 13 ก็ยังไม่มีคนเดินทางออกมาจากป่าอีกเมื่อสอบถามญาติคนอื่น

ก็ยังยืนยันว่ายังไม่เห็นทั้ง 4 คนกลับมาถึงบ้านดังนั้นนายบุญยืนและญาติคนอื่นจึงพากันออกตามหาไปในป่าซึ่งทุกคนรู้ดีว่าต้นมะก็น่าจะอยู่แถวบริเวณไหนแต่เมื่อไปหาตรงบริเวณที่ทั้ง 4 คนบอกว่าจะมาเก็บลูกมะกอกก็ไม่พบหลังจากนั้นวันที่ 13 ช่วงประมาณ 15:00 น.นางแดงก็โทรกลับมาหายากอีกครั้งนึงว่าออกจากป่ามาไม่ได้เพราะว่าหลงป่าแต่ก็ยังอยู่แถวบริเวณต้นมะก็ซึ่งทางญาติก็บอกให้รออยู่ที่นั่นห้ามไปไหน

แต่เมื่อทางแยกออกไปตามหาก็ไม่มีใครพบโดยนายบุญยืนระยะคนอื่นเชื่อว่าทั้ง 4 คนน่าจะถูกผีบังตาทำให้มองไม่เห็นและพวกเขาอาจจะทำการเดินผ่านต้นเครือเขาหลงซึ่งเป็นต้นไม้ที่คนโบราณเชื่อกันว่าถ้ามีใครเดินข้ามหรือเดินเหยียบจะทำให้หลงป่าและไม่สามารถออกจากป่านั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องก็ได้พากำลังออกเข้าตามหา

ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ปูพรมหาในรัศมี 15 ตารางกิโลเมตรแต่ก็ยังไม่พบเบาะแสของคนทั้ง 4 คนแต่อย่างใดโดยการออกตามหาคนหลงป่าทั้ง 4 คนในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสร้างในพานที่เป็นคนที่ชำนาญป่าแห่งนี้

มาร่วมเดินทางด้วยซึ่งในพานบอกว่าพบรอยเท้าของหมีซึ่งอยู่ในวัยโตเต็มที่เดินอยู่ในป่าแห่งนี้ด้วยดังนั้นในภายเกรงว่าหากยังไม่รีบตามหาทั้ง 4 คนให้พบโดยไวมิอาจจะเจอทั้ง 4 คนและอาจจะทำให้ทั้ง 4 คนโดยมีทำร้ายก็เป็นได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้า bk8

เมียหลวงหึงโหดใช้ปืนยิงผัวทหารตาย ใส่ร้ายเมียน้อยว่าเป็นคนยิง

            ที่จังหวัดลพบุรีได้มีการก่อเหตุยิงกันในบ้านพักข้าราชการทหารซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบว่ามีการนำตัวผู้ที่ถูกยิงส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วส่วนผู้ต้องสงสัยนั้นเป็นภรรยาของนายทหารคนที่ถูกยิง

แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการสอบถามภรรยาของนายทหารคนดังกล่าวเจอกับปฏิเสธว่าไม่ได้มีการยิงสามีของตนเองพร้อมทั้งยังบอกอีกว่าคนที่ยิงสามีของเธอนั้นเป็นภรรยาน้อยของสามีของเธอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุพบว่ามีบริเวณร่องรอยของกองเลือดอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องครั

วแต่ไม่พบหลักฐานอื่นพอที่จะสามารถปรับปรุงภรรยาของนายทหารคนดังกล่าวได้แต่เนื่องจากว่าในช่วงที่มีการก่อเหตุยิงกันนั้นมีเพื่อนบ้านในบริเวณดังกล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าช่วงที่มีเสียงปืนดังขึ้นนั้นได้ยินนายทหารที่ถูกกินร้องให้ชาวบ้านเข้ามาช่วยจึงมีชาวบ้านหลายคนต่างวิ่งเข้าไปในบ้านขนาดเดียวกันระยะของนายทหารได้เดินสวนกับชาวบ้านออกมาพร้อมทั้งในมือมีถุงพลาสติกถุงหนึ่ง

ซึ่งเคยเห็นว่าภรรยาของนายทหารที่ถูกยิงได้นำถุงพลาสติกดังกล่าวไปฝากไว้บ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกันดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปบ้านหลังดังกล่าวเพื่อทำการตรวจค้นและเจอถุงพลาสติกที่กล่าวอ้างถึง

ซึ่งภายในมีเสื้อผ้ารวมถึงมีถุงมือและอาวุธปืนจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบค่ะวันและเชิญตัวภรรยาของนายทหารคนดังกล่าวเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจในขณะเดียวกันหลานสาวของนายตำรวจคนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลับหลังที่นำตัวของนายทหารเพื่อนำตัวไปส่งโรงพยาบาลนั้นผู้บาดเจ็บไม่มีการพูดขึ้นมาว่าคนที่ยิงคือภรรยาของตนเอง

หลังจากนั้นเมื่อไปถึงโรงพยาบาลทางหมอและพยาบาลได้พาผู้บาดเจ็บเข้าห้องไอซียูและใช้เครื่องช่วยหายใจต่อมาไม่นานผู้บาดเจ็บก็เสียชีวิตไปทั้งนี้หลายคนมองว่าภรรยาของนายทหารน่าจะเป็นคนยิงเนื่องจากว่าเธอมีปัญหาเรื่องของการหึงหวงกันอยู่กับสามีและเธอมักจะโทรมาบ่นให้ลูกทำของเธอฟังว่าเธอมีความเครียดซึ่งช่วงหลังๆมานี้เธอมากินเหล้า

อยู่บ่อยครั้งและกินในปริมาณมากโดยขณะที่ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเธอก็ยังมีอาการเมาสุราและพูดจาไม่รู้เรื่องแต่เธอก็ยังยืนยันปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องของการยิงสามีของตนเองซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องผลการชันสูตรคราบเขม่าปืนจากบริเวณของเธอที่มีการนำไปส่งตรวจสอบที่ห้องแลปก่อนก่อนที่จะมีการดำเนินการจับกุมเธอเธอต่อไปในขณะเดียวกันตอนนี้เธอเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียิงสามีตนเองจึงถูกคุมขังไว้ที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว

 

สนับสนุนโดย  bk8