หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบปารีณาออกมาเชิญชวนทุกคนให้มาฉลอง 

ได้มีการเผยแพร่ Facebook ของ สส. ปรีณา. ไกรคุปต์ ที่มีการเขียนข้อความเชิญชวนให้ประชาชนทั้งประเทศมาร่วมเฉลิมฉลอง

หลังจากที่มีการทราบข่าวว่าศาลได้อนุมัติตัดสินออกมาว่าให้ทำการยุบพรรคอนาคตใหม่โดยเธอยังระบุอีกว่าต่อไปนี้พร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อทำให้ประเทศไทยเจริญและหากใครที่มาต่อว่าศาลไม่แสดงความเคารพต่อศาลเธอพร้อมที่จะจัดการเต็มที่โดยที่จะไม่ไว้หน้าใครอีกต่อไป

สำหรับ สส. ปรีณา  ไกรคุปต์นั้น

เป็นนักการเมืองที่มักจะชอบออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นอยู่ด้วยครั้งโดยเฉพาะหากเป็นเรื่องของสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่นักการเมืองคนนี้จะต้องออกมาเขียนต่อว่าด่าทออยู่บ่อยครั้งซึ่งในครั้งนี้เธอก็ออกมาเคลื่อนไหว

เกี่ยวกับข้อมูลที่ศาลได้มีการตัดสินให้มีการยุบพรรค ของพรรคอนาคตใหม่ด้วยเธอกล่าวว่าตั้งพรรคอนาคตใหม่จะต้องถูกตัดสิทธิ์ในการเล่นการเมืองเป็นเวลานานถึง 10 ปีซึ่งเธอได้แสดงความดีใจและมีการเขียนเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยพากันออกมาเฉลิมฉลองกับการที่ศาลได้ตัดสินในครั้งนี้

ในอดีตที่ผ่านมานักการเมืองหญิงปารีณา ไกรคุปต์ น้องจะออกมาวุ่นวายวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองอยู่บ่อยครั้งและเธอก็ถูกห้ามไม่ให้มีการวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองมาแล้วหลายรอบ

ซึ่งเธอมักจะมีปัญหากับสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่อยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะกับสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่ที่ชื่อว่าช่อพรรณิกาและถึงแม้ว่าเธอจะถูกต่อว่าทุกครั้ง ที่เธอมีการออกมาโพสต์หรือพูดถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดีแต่เธอก็ไม่เคยแคร์และยังคงพยายามที่จะเขียนถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดีอยู่ตลอดเวลาจนเธอเป็นนักการเมืองหญิงที่คนไทยทั้งประเทศพากันเกลียดชังและไม่ชอบในตัวเธอ

ซึ่งบ่อยครั้งที่เธอมักจะมีปากเสียงเกือบทั้งชาวบ้านและนักการเมืองด้วยกันเองโดยในครั้งนี้เธอยังออกมาเขียนด้วยว่าหากใครที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลแสดงว่าคนเหล่านั้นเป็นคนที่ไม่รักชาติและเป็นคนที่จะทำลายประเทศชาติซึ่งเธอยังออกมาเขียนเพิ่มเติมใน Facebook ส่วนตัวได้ว่าหากมีใครที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลเธอ

ก็พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อศาลและจะดำเนินคดีกับคนที่มาวิจารณ์ศาลให้ถึงที่สุดเธอจะไม่ไว้หน้าใครหน้าไหนทั้งสิ้นประเทศไทยควรเดินหน้าต่อไปและพรรคอนาคตใหม่สมควรถูกโดนยุบพรรคซึ่งเธอยังได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับคดีที่เธอได้แจ้งความเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นพ่อของจอห์นวิญญูหรือแม้แต่ต้อมยุทธเลิศที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาล             

มือแทงลั่น !!! มันสมควรตาย

เหตุการณ์ชายถูกแทงเสียชีวิต มือแทงลั่น !!! มันสมควรตาย

  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ชายคนหนึ่งถูกแทงจนเสียชีวิต โดยถูกแทงที่ใต้ราวนม นอนตายอยู่ในห้องนอนของตัวเอง  ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้ตายว่าชื่อ นาย วีระพงศ์ อายุ 30 ปีซึ่งคนที่เข้ามาพบศพคนแรกเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า

ตอนที่นายวีระพงศ์นอนอยู่ในห้องเขาปิดไฟมืดหมดเลย แต่เขาก็มองเห็นว่านายวีระพงศ์นอนอยู่ข้างเตียงทำให้เขาแปลกใจ

จึงได้เดินเข้าไปหาแล้วสะกิดเรียกเพื่อให้นายวีระพงศ์ขึ้นมานอนบนที่นอน ขณะที่เดินไปที่นายวีระพงศ์บังเอิญเขาไปเหยียบโดนเลือดที่อยู่ที่พื้นข้างตัวของนายวีระพงศ์เข้า เขาจึงไปเปิดไฟ ทำให้เขาเห็นว่านายวีระพงศ์ถูกแทงหลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปหน้าห้อง

ซึ่งเขาได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นคนข้างห้องนายวีระพงศ์ชื่อว่าป้าอุไร เดินอยู่หน้าห้องลักษณะเหมือนกับคนเมา แล้วก็พูดแต่ประโยคที่ว่า ฉันฆ่ามันเอง มันสมควรตาย เขาจึงโทรแจ้งตำรวจและตำรวจก็สามารถจับป้าอุไรได้เพราะเธอไม่ได้หนี ซึ่งตอนแรกคิดว่าก่อเหตุเพราะเรื่องหึงหวง แต่เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า

ทั้งคู่เป็นคนข้างห้องและมีปัญหาเรื่องของเงินที่นายวีระพงศ์ยืนเงินของป้าอุไรเพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ โดยก่อนหน้านั้นนายวีระพงศ์เคยมาชวนป้าอุไรเล่นพนันออนไลน์ด้วยกันซึ่งป้าอุไรก็เล่น แล้วมายืมเงินเจ้าของห้องเช่าจำนวนเงิน สองหมื่นบาทเพื่อให้นายวีระพงศ์นำไปเล่นการพนัน และผ่านไปหลายวันนายวีระพงศ์ก็ไม่ยอมคืนเงินสองหมื่นนั้นสักที

โดยในคืนเกิดเหตุป้าอุไรได้ดื่มเหล้าจนเมาแล้วเดินเข้าไปหานายวีระพงศ์เพื่อทำการทวงเงินที่ยืมไป แต่เกิดทะเลาะกันเพราะนายวีระพงศ์ไม่ยอมให้ ทำให้ป้าอุไรที่เมาเหล้าอยู่แล้วโมโหจนขาดสติ จึงใช้มีดที่วางอยู่ใกล้ใกล้แทงไปที่ราวนมของนายวีระพงศ์

ซึ่งหลังจากโดนแทงนายวีระพงศ์ก็ล้มลง แต่ป้าอุไรคิดว่านายวีระพงศ์เพียงแค่บาดเจ็บแล้วนอนสลบไปเท่านั้น จึงได้ทำการปิดไฟในห้องนอนให้แล้วเดินออกมานั่งกินเหล้าต่อที่หน้าห้อง จนมีคนไปพบศพนายวีระพงศ์ดังกล่าว

ซึ่งทางป้าอุไรได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ได้ตั้งใจแทงให้นายวีระพงศ์ตาย แค่ทำไปด้วยความโมโหเท่านั้น  ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวป้าอุไรไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับตัวได้แล้ว..คนร้ายที่ก่อเหตุยิงกราดในวัด

จับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิงกราดในวัดแถมอุ้มเอาคนไปซ้อมได้แล้ว

ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความของหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อทำการโพสต์ร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีของพี่ชาย ซึ่งเธอเล่าว่าพี่ชายของเธอโดนอุ้มไปซ้อมโดยที่พี่ชายของเธอไม่รู้จักกับกลุ่มที่มาอุ้มเลยด้วยซ้ำซึ่งคาดว่าจะมีการซ้อมผิดตัว

โดยเธอได้ไปทำการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแต่คดีไม่คืบหน้า โดยเธอเล่ารายละเอียดเอาไว้ว่า เธอและพี่ชายได้ไปงานบวชเพื่อนของพี่ชายที่วัดแห่งหนึ่งและขณะที่กำลังทำพิธีบวชกันอยู่นั้นก็ได้มีกลุ่มชายหนุ่มจำนวน 4 คนได้ขับรถบิ๊กอัพเข้ามาในบริเวณวัดตรงที่พวกเธอและพี่ชายอยู่ซึ่งตอนนั้นมีคนอยู่ในวัดเป็นจำนวนมาก

แล้วชายทั้งสี่คนก็เอาปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่คนที่อยู่ภายในงานหลังจากนั้นก็พากันเดินเข้ามาจับตัวพี่ชายของเธอไป ซึ่งพวกชายทั้งสี่คนยังได้ถือปืนขู่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปช่วยพี่ชายของเธอได้และหลังจากนั้นพวกคนร้ายทั้งสี่คนก็ได้พาพี่ชายของเธอขึ้นรถไป ซึ่งต่อมาพี่ชายของเธอได้รับการปล่อยตัว

โดยพวกคนร้ายนำมาปล่อยตัวไว้ที่หน้าสถานีตำรวจตลิ่งชัน โดยสภาพของพี่ชายเธอถูกซ้อมมีเลือดออกเต็มตัวและหัวก็แตก ต้องพาส่งโรงพยาบาลเพราะอาการสาหัสมาก โดยพี่ชายของเธอได้เล่าว่าชายทั้งสี่คนเอาผ้าปิดตาและพาไปที่หนึ่งแล้วพากันซ้อมทั้งเตะและต่อยรวมถึงใช้ปืนตีหัว ก่อนจะนำตัวมาส่งที่สถานีตำรวจโดยอ้างว่าจับมาผิดตัว

และจะขอจ่ายค่าทำขวัญให้กับผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนเงินสี่หมื่นบาท ซึ่งทางครอบครัวไม่ยอม ทางชายคนร้ายทั้งสี่คนจึงได้ทำการโทรเข้ามาข่มขู่ตัวเองและคนในครอบครัวโดยบอกว่าห้ามแจ้งความไม่งั้นจะเกิดอันตราย และพวกคนร้ายยังบอกอีกว่าเขาไม่กลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอจึงนำข้อความมาโพสต์เพื่อร้องขอความเป็นธรรมเพราะหลังจากที่แจ้งความไป ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาได้แล้ว

แต่ก็ได้รับการประกันตัวออกไปและที่สำคัญทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อมาที่น้องสาวของคนเจ็บเพราะเป็นคนโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ตอนที่ชายทั้งสี่คนมาฉุดพี่ชายออกจากวัด โดยทางตำรวจข้อร้องให้ทำการลบคลิปทั้งหมดออกและห้ามนำไปเผยแพร่ ซึ่งทางตนและญาติไม่ยอมแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดึงเอามือถือไปลบคลิปออกจนได้ แต่ก่อนหน้านั้นตอนได้ส่งคลิปเกิดเหตุไปไว้ที่เครื่องพ่อแม่และญาติคนอื่นอื่นเอาไว้แล้ว ตอนนี้จึงอยากให้มีการแชร์เรื่องนี้เยอะๆเพื่อที่ได้รับความเป็นธรรม