ชาวบ้านมีเฮเมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีการปรับค่าไฟ

ชาวบ้านมีเฮเมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีการปรับค่าไฟของเดือนเมษายนให้ใหม่โดยจ่ายหลังวันที่ 30 เมษายนได้.

                 ภายหลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่ออกมาให้ประชาชนในเดือนเมษายนมียอดการเรียกเก็บที่สูงผิดปกติจากทุกๆเดือนที่ผ่านมาโดยหลายคนจะถูกเรียกเก็บค่าไฟเพิ่มเป็น 2-3 เท่า

จากที่เคยจ่ายซึ่งหน่วยงานการไฟฟ้าเองก็เคยออกมาให้เหตุผลเรื่องของค่าไฟที่สูงผิดปกตินี้ว่าเนื่องจากว่าปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านที่เป็นการเข้าโครงการ work from home

ดังนั้นเมื่ออยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ทำให้การใช้ไฟฟ้าจึงมีการใช้งานในปริมาณเยอะมากขึ้นเพราะต้องมีการเปิดแอร์เปิดพัดลมอยู่แทบจะตลอดเวลาในขณะที่เดินกันก่อนนั้นประชาชนส่วนใหญ่มีการเดินทางออกไปทำงานนอกบ้านจะกลับเข้ามาใช้ไฟฟ้าในบ้านนั้นก็แค่ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น

จึงทำให้ในเดือนเมษายนนี้ยอดค่าไฟของแต่ละคนจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจแต่ในขณะเดียวกันเมื่อมีการตรวจสอบบางยอดที่มีการเรียกเก็บสูงดูผิดปกติมากนั้นก็พบว่าเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเองก็มีการทำงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องของการจดมิเตอร์ไฟ

ทำให้บ้านบางหลังมียอดค่าใช้บริการเกี่ยวกับไฟฟ้าที่ Over ผิดปกติซึ่งทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเองก็ได้มีการออกมาประกาศแล้วว่าหากบ้านไหนที่ต้องการส่งเรื่องตรวจสอบก็สามารถส่งให้ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตรวจสอบยอดสูงผิดปกติได้

แต่ถ้าเกิดบ้านไหนที่มีการสูงขึ้นมาเล็กน้อยนั่นสามารถจะประมาณการได้ว่าเนื่องจากว่ามีการใช้ไฟในช่วงของเดือนเมษายนซึ่งปกติในทุกๆปีเดือนนี้ยอดค่าไฟก็จะสูงอยู่แล้วและยิ่งแต่ละคนทำงานอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนการใช้ไฟฟ้า

จึงเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างไรก็ดีทางการไฟฟ้าเองก็ได้มีการออกมาประกาศผ่านสื่อให้ประชาชนวางใจได้ว่าจากยอดที่มีการส่งไปเรียกเก็บกับประชาชนนั้นทางการไฟฟ้าเองก็เล็งเห็นว่าในช่วงนี้ประชาชนมีปัญหาเรื่องของการใช้ชีวิตและการใช้จ่าย

เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทำงานไม่มีรายได้ดังนั้นการไฟฟ้าจึงจะมีการช่วยเหลือประชาชนด้วยการลดค่าไฟให้กับประชาชนโดยจะมีการกำหนดความช่วยเหลือในเดือนเมษายนเอาไว้สำหรับผู้ที่มีการใช้ไฟโดยมีการใช้มิเตอร์ไฟไม่เกิน 5 แอมป์นั้นทางการไฟฟ้าเองจะไม่มีการเรียกเก็บค่าไฟฟ้า

แต่บ้านไหนก็ตามที่มีการใช้มิเตอร์เกิน 5 แอมป์ขึ้นไปก็จะมาดูในเรื่องของยอดการใช้หากใช้ไม่เกินจากประวัติการใช้งานของเดือนกุมภาพันธ์ก็จะมีการให้ใช้ไฟฟ้าได้ฟรีแต่ถ้าหากบ้านไหนมีการใช้งานไปเกินจากยอดของเดือนกุมภาพันธ์ขึ้นมา

ก็จะมีการลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่วนลดนี้จะมีการคำนวณแล้วเสร็จหลังวันที่ 30 เมษายนนี้ดังนั้นหากใครที่จ่ายเงินค่าไฟฟ้าไปก่อนแล้วก็จะมีการคืนเงินให้ภายหลังแต่ถ้าเกิดใครจะรอให้ทางการไฟฟ้ามีการปรับลดให้ก่อนแล้วค่อยไปจ่ายเงินก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน 

         

สนับสนุนโดย  sagame66

แก๊งวัยรุ่นกล่าวหาตำรวจเรียกเงินแทนการโดนจับเพราะฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

              เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ได้ถูกแก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกล่าวหาเกี่ยวกับเรื่องของการเรียกเงินจำนวน 54,000 บาทโดยแก๊งวัยรุ่นได้มีการโพสต์ข้อความลงใน Facebook ส่วนตัวของตนเองบอกกล่าวว่าเมื่อช่วงคืนของวันที่ 18 เมษายนปีพ.ศ. 2563 ช่วงเวลาประมาณ 22:00 น.

ขณะที่กันเองและเพื่อนๆกำลังนั่งกินหมูกระทะกันภายในบ้านพักปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่บ้านเพื่อจะมีการมาจัดที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวซึ่งตนเองคิดว่าตนนั้นไม่ผิดเพราะว่าไม่ได้ออกไปข้างนอกเพียงแต่ว่ามาเจอกันภายในบ้านของตนเอง

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันจะมีการปรับตัวไปดำเนินคดีซึ่งได้มีการเสนอว่าหากไม่ต้องการถูกจับพวกกลุ่มวัยรุ่นจะต้องมีการจ่ายเงินให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคนละ 6,000 บาทซึ่งในวันดังกล่าววัยรุ่นกลุ่มนั้นมีกันอยู่ที่ประมาณ 8-9 คนหลังจากนั้น

ได้มีการต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยให้เหลือเพียงแค่ 350 บาทเท่านั้นซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตกลงเมื่อพวกกลุ่มวัยรุ่นได้มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กลับไปทันทีหลังจากที่ข้อความนี้ถูกแชร์ออกมาทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากและข้อความนี้ถูกแชร์ส่งต่อไปยัง

พลตำรวจตรีชุมพลซึ่งมีการดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดสมุทรปราการได้มีคำสั่งให้มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่มีการปฏิบัติงานโดยมิชอบซึ่งทางพลตำรวจตรีชุมพลเองยังไม่ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายนะมีความผิดเพียงแต่ให้ไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่ก่อนและจะดำเนินการทำการสืบสวนสอบสวนต่อไปซึ่งถ้าหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายนั้นอีกครั้งหนึ่งแต่เนื่องจากว่าเบื้องต้นนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบรายละเอียดมากนักจึงต้องขอตรวจสอบก่อนด้านทั้งนักข่าวเองได้มีการลงไปยังพื้นที่บ้านหลังที่วัยรุ่นมีการระบุเอาไว้ว่ามีการถูกเรียกเงินซึ่งรวมไปถึงไม่พบวัยรุ่นดังกล่าวพบแต่แม่ของกลุ่มวัยรุ่นซึ่งนางก็ให้ข้อมูลว่าในวันเกิดเหตุนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจริง

แต่ไม่ได้ออกมาดูเพราะว่ากลัวจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแต่ตอนที่อยู่ในบ้านนั้นก็ไม่รู้ว่าจะได้ตำรวจกับลูกชายคุยอะไรกันบ้างมีการเรียกใช้เงินกันหรือไม่ทางด้านแม่ของกลุ่มวัยรุ่นไม่ยืนยันและไม่ให้ขอสัมภาษณ์ใดๆก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ส่วนตัววัยรุ่นเอง

ก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะไปๆมาๆระหว่างบ้านแม่กับบ้านแฟนและตอนนี้แม่ก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายของตนเองได้ที่สำคัญข้อความที่มีการโพสต์ไว้ใน Facebook ก็ได้มีการลบทิ้งไปแล้วซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นการโพสต์

เพื่อความคึกคะนองของตนเองของกลุ่มวัยรุ่นและเกรงว่าจะมีความผิดจึงได้ลบโพสต์นั้นทิ้งไปเพราะถ้าหากเป็นเรื่องจริงเรื่องใหญ่ขนาดนี้และมีนายตำรวจระดับสูงมาคอยตรวจสอบให้ก็น่าจะออกมาให้ข้อมูลเพื่อจะได้เอาผิดในตำรวจทั้งสองคนได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  next88 thailand

ลุงแท็กซี่โดนโซเชี่ยวแขวะ คิดมากจนเข้าโรงพยาบาล

ได้รับเงินบริจาคคืนเดียวแปดล้านสามแสนบาท ลุงแท็กซี่โดนโซเชี่ยวแขวะ คิดมากจนเข้าโรงพยาบาล

 หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีข่าวเกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่คันหนึ่งอายุประมาณ 72 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งลุงคนขับแท็กซี่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าตนเองได้รับผลกระทบอย่างมาก

ทุกวันนี้หาเงินไม่ค่อยได้เลย จากที่เคยมีผู้โดยสารและมีเงินเข้าต่อวันวันละเกือบหนึ่งพันบาทแต่ตอนนี้เงินแค่เพียงสามร้อยบาทกลับยังไม่ได้ โดยรถแท็กซี่คันที่ขับอยู่นี้ก็เช่าเป็นรายวันต้องจ่ายค่าเช่าทุกวันวันละ 300 บาทอย่าง

วันนี้ก็ยังไม่ได้ผู้โดยสารพอที่จะจ่ายค่าเช่าได้เลย ตอนนี้นอกจากขับรถแท็กซี่แล้วก็ต้องหาทางปรับตัวปรับช่องทางหาเงินด้วยการขับรถแท็กซี่ส่งของแทน เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้

ซึ่งบทสัมภาษณ์ในขณะนั้นลุงขับแท็กซี่พูดไปร้องไห้ไปเมื่อนักข่าวนำคำพูดของลุงขับแท็กซี่มาออกข่าวปรากฏว่าเพียงแค่หนึ่งคืนเท่านั้น ลุงขับแท็กซี่ได้รับการโอนเงินบริจาคเข้ามามากถึงแปดล้านสามแสนบาทด้วยกัน

ซึ่งล่าสุดคุณลุงขับรถแท็กซี่ปิดรับบัญชีเรียบร้อยแล้วโดยนักข่าวได้มีการโทรไปสอบถามเกี่ยวกับเงินที่ลุงขับแท็กซี่ว่าจะเอาเงินตั้งมากไปทำอะไร ซึ่งลุงขับแท็กซี่ก็ได้ฝากขอบคุณในความมีน้ำใจของทุกคนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้

โดยเงินแปดล้านสามแสนบาทที่ ลุงขับแท็กซี่ได้รับมานาน ลุงบอกว่าจะนำเงินไปสร้างบ้านเพราะตอนนี้ลุงเองยังไม่มีบ้านอยู่ และจะนำเงินที่เหลือไปบริจาคตามโรงพยาบาลต่างต่างเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ ที่เหลือก็จะบริจาคให้กับมูลนิธิคนขับแท็กซี่

เพราะคุณลุงเองก็เป็นคนขับรถแท็กซี่และบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์สำหรับดับไฟป่า ซึ่งในขณะที่นักข่าวสัมภาษณ์หลังจากได้เงินนั้นลุงขับแท็กซี่ก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งลุงเองบอกว่าที่อยากบริจาคให้คนอื่นบ้างนั้นเพราะทุกคนต่างก็เดือดร้อนเหมือนกัน

ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์นักข่าววันรุ่งขึ้นลุงขับแท็กซี่ก็เข้าโรงพยาบาล โดยทางเพื่อนบ้านได้บอกกับนักข่าวว่าลุงขับแท็กซี่ความดันขึ้น เพราะหลังจากได้เงินมาและเป็นข่าวดัง ก็มีคนเข้ามาเห็นใจและมีคนเข้ามาต่อว่าเรื่องการรับเงินบริจาคโดยมีบางคนมองว่าแค่ร้องไห้ผ่านทีวีก็เปิดรับเงินบริจาคแล้วก็ได้เงินไปใช้ฟรีๆ

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ลุงขับแท็กซี่เครียดมากจนความดันขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล โดยเพื่อนบ้านบอกกับนักข่าวว่าบ้านที่คุณลุงขับแท็กซี่อาศัยอยู่ตอนนี้เป็นบ้านเช่าไม่ใช่บ้านของลุงเอง

เศรษฐกิจแย่แต่ธุรกิจหวยรุ่ง   

ในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยมีปัญหาซบเซาเอกธุรกิจหนึ่งที่ยังสามารถดำรงอยู่ได้และเป็นธุรกิจที่สร้างความร่ำรวยให้กับเจ้าของกิจการเป็นอย่างมากนั่นก็คือธุรกิจการขายหวยซึ่งในปัจจุบันเจ้ามือหวยไม่จำเป็นต้องมาเดินขายหวยตามบ้านคนแล้วเพราะสามารถเปิดขายหวยผ่านทางออนไลน์ได้ดังนั้นตอนนี้ก็ใช้ขายหวยออนไลน์จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็ถึงแม้ว่าหวยที่ประเทศไทยปัจจุบันจะมีการปิดเรือนกาญประกาศผลรางวัลออกไป

แต่ก็ยังมีหวยของประเทศอื่นๆที่ยังเปิดให้บริการตามปกติดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่มีรายได้จึงมักหันมาพึ่งพิงการซื้อหวยเพื่อหวังจะได้รับเงินรางวัลมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในปัจจุบันนี้มีเว็บขายหวยออนไลน์ต่างๆมากมายที่เปิดขายหวยไม่ว่าจะเป็นหวยลาว   หวยยี่กี่   หวยเวียดนาม   หวยฮานอย  หรือแม้แต่หวยหุ้นต่างๆ

ก็สามารถที่จะซื้อได้ซึ่งเราสามารถซื้อหวยได้ทุกวันเรียกได้ว่าแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ดังนั้นทำให้คนที่ไม่มีรายได้แต่อยากจะหารายได้จากการเสี่ยงโชคเริ่มหันมาสนใจเว็บไซต์ขายหวยกันเป็นจำนวนมากเพราะไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่หาเลขที่คิดว่าน่าจะถูกแล้วนำเงินมาซื้อก็สามารถลุ้นเงินรางวัลได้แล้ว

     และบางเว็บไซต์ที่มีการขายหวยนั้นไม่ได้ขายเฉพาะหวยอย่างเดียวเท่านั้นปัจจุบันเว็บไซต์ขายหวยนอกจากเราจะซื้อหวยได้แล้วเรายังสามารถร่วมสนุกกับเกมส์ต่างๆที่ในเว็บไซต์ขายหวยมีให้เล่นเกมเป่ายิ้งฉุบ   เกมทายหัวก้อย   ซึ่งเกมเหล่านี้ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่เข้าไปเล่นได้เช่นเดียวกัน

     ดังนั้นในช่วงที่มีการขอความร่วมมือประชาชนในการไม่ออกนอกบ้านหลายคนส่วนใหญ่ไม่รู้จะทำอะไรก็มักจะเข้ามาใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการเข้าไปเล่นหวยเพื่อที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการคลายเหงาแล้วยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่เข้าไปเล่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

และในปัจจุบันนี้หาใครที่ไม่รู้ว่าจะสามารถหาซื้อหวยจากเว็บไซต์ไหนได้บ้างแค่เพียงค้นหาจาก Google ก็จะมีเว็บไซต์ขายหวยเป็นจำนวนมากขึ้นมาโชว์ที่หน้าจอให้ผู้ที่ต้องการเสี่ยงโชคเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วก็สามารถเข้าไปซื้อหวยได้เลยซึ่งขั้นตอนการสมัครสมาชิกรวมถึงขั้นตอนการซื้อหวยนั้นไม่ได้ยุ่งยากมีวิธีการง่ายๆ

ที่จะบอกให้ลูกค้าเข้าไปทำอะไรกันได้ซึ่งแม้แต่ผู้สูงอายุเองอ่านขั้นตอนก็สามารถทำรายการเองได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยทั้งนี้หากใครที่ต้องการจะซื้อหวยผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ก็ให้ตรวจสอบข้อมูลหาข้อมูลการรีวิวให้ดีว่าตอนนี้มีเว็บไซต์ไหนที่กำลังมีชื่อเสียงและจ่ายจริงบ้างเพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกหลอกหลักการซื้อหวยออนไลน์ 

ร้านเกมฝ่าฝืนเคอร์ฟิว  เปิดร้านหาเงินเลี้ยงครอบครัว

ร้านเกมฝ่าฝืนเคอร์ฟิว  เปิดร้านหาเงินเลี้ยงครอบครัว ลั่นถึงถูกจับแต่ก็ดีกว่าไม่มีกิน

         ที่จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ. แม่โจ้ ได้รับแจ้งเหตุมีร้านเกมเปิดให้บริการให้ลูกค้าเข้ามาเล่นเกมรวมถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในร้าน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่รับทราบเรื่องจึงได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าร้านเกมดังกล่าวมีการเปิดให้บริการจริง มีเครื่องคอมฯอยู่ 5 เครื่อง และมีวัยรุ่นอยู่ประมาณ 5 คนเข้ามานั่งเล่นอินเตอร์เน็ตและเล่นเกมกันภายในร้านเกม

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวทั้งเจ้าของร้านและกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาเล่นเกมทั้งหมด 5 คนเอาไว้ด้วย รวมทั้งเก็บยึดคอมฯเอาไว้เป็นของกลาง สำหรับในการดำเนินคดี  สำหรับร้านเกมแห่งนี้ มีพลเมืองดีโทรเข้าไปแจ้งเหตุว่ามีการเปิดให้วัยรุ่นเข้าไปใช้บริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งชาวบ้านกลัวว่าจะเป็นแหล่งมั่วสุมและเป็นสถานที่แพร่โควิด-19 ได้เพราะมีวัยรุ่นเข้าออกร้านทุกวันและเป็นจำนวนมาก

    ซึ่งเรื่องนี้ทางนักข่าวได้ลงพื้นที่ไปคุยกับเจ้าของร้านเกม ซึ่งภายในร้านเป็นหอพักและมีการแบ่งห้องเอากระจกมากั้นเอาไว้ เป็นกระจกสีทึบ และเมื่อมองเข้าไปด้านในก็เห็นโต๊ะเก้าอี้วางเรียงกันอยู่ 5 ตัว

เจ้าของร้านเกมที่ถูกแจ้งจับได้บอกกับนักข่าวว่า มีการเปิดให้เล่นเกมจริงแต่คนที่เล่นก็เป็นลูกหลานบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น และร้านเพิ่งเปิดให้เด็กวัยรุ่นเข้ามาเล่นเกมได้เพียงสองวันเท่านั้นเอง ที่สำคัญไม่ได้เปิดให้ที่นี่เป็นแหล่งมั่วสุมอย่างที่ชาวบ้านให้ข่าว

ซึ่งถูกจับก็ต้องหาเงินไปประกันตัวสองหมื่นบาท ที่ต้องเปิดให้เด็กเด็กแถวบ้านเข้ามาเล่นเกมนั้น ก็เพราะต้องการหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ตนเองก็มีลูกมีเมียที่ต้องดูแล  การเปิดให้ญาติกันเข้ามาเล่นเกมนี้ก็เป็นการหาเงินมาเสริมเพราะตอนนี้รายได้ที่เคยมีก็ลดลงตั้งแต่มีปัญหาเรื่องโควิด-19 โดยรายได้ในแต่ละวันนั้นได้เพียงแค่ประมาณ หนึ่งร้อยบาทเท่านั้นเอง และเจ้าของร้านเกมยังยืนยันว่าที่นี่ไม่ได้เป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 แน่นอน

เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็ใส่หน้ากากอนามัยและที่ร้านก็มีเจลล้างมือไว้ให้ลูกค้าได้ใช้ และที่ต้องยอมเสี่ยงเปิดร้านเกมนั้นก็เพราะว่า หากไม่ทำก็ไม่มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว หากไม่ทำก็จะอดตาย ดังนั้นยอมเสี่ยงถูกจับดีกว่าที่จะเห็นครอบครัวอดตาย

   เหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะทุกคนก็เกรงกลัวกฎหมายด้วยกันทั้งนั้น ถูกจับไปนอกจากจะต้องเสียเงินมาประกันตัวเองแล้วยังต้องติดคุกอีกด้วย แต่หากไม่ทำก็ไม่มีเงินมาเลี้ยงครอบครัวซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องรีบหาทางออกให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน

โจ๋วัย 19 ถูกจ่อยิงขมับ  แต่ไม่ตาย  รอดปาฎิหาริย์

   ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันซึ่งในภาพจะไม่ค่อยได้เห็นชัดมากนักได้ยินเป็นเสียงและการใช้หัวตีกันรวมถึงผู้ที่ถ่ายคลิปเองก็มีการคุยกันเกี่ยวกับรถที่จอดตรงบริเวณที่กลุ่มวัยรุ่นตีกันจะได้รับความเสียหายโดยพื้นที่ที่เกิดเหตุฉันเกิดเหตุที่ซอยบางหญ้าแพรก ตำบลบางหัวเสือ  จังหวัดสมุทรปราการ 

สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้บาดเจ็บมีชื่อว่านายโดม อายุ 19 ปี ในขณะเกิดเหตุนายโดมกำลังนั่งเล่นอยู่ตรงศาลาริมทางปากซอยบางหญ้าแพรก ซึ่งพี่สาวของนายโดมได้ให้ข้อมูลกับสถานีช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่ม นายโดมได้โทรเข้ามาคนที่บ้านโดยบอกว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน โดยกระสุนปืนฝังเข้าไปที่ศรีษะด้านใน 

เมื่อพี่สาว ทราบเรื่องก็รีบเดินทางไปดูน้องชายทันที ปรากฏว่าตอนนี้น้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวพี่สาวเองก็สงสัยเหมือนกันว่าน้องชายตนเองไปมีเรื่องกับใคร เดินทางพี่สาวของนายโดมและเล่าให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วงที่ก่อนนายโดมจะเข้ารับการผ่าตัดนั้นได้มีการพูดคุยกับพี่สาวได้ปกติดีและได้เล่าให้กับพี่สาวฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้น

เนื่องจากว่านายโดมและเพื่อนพากันขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปซื้อของหลังจากนั้นก็พากันมานั่งเล่นอยู่ตรงศาลาริมทาง ระหว่างที่นายโดมกับเพื่อนกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3-4 คัน

โดยทั้งหมดมีการเบิ้ลเครื่องยนต์ตรงบริเวณที่นายโดมและเพื่อนนั่งเล่นกันอยู่ทำให้นายโดมตะโกนถามออกไปว่าจะเบิ้ลเครื่องทำไม ซึ่งทางวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาก็ได้ขับเลยไปแต่นายโดมชวนเพื่อนให้ขับรถตามกลุ่มวัยรุ่นนั้นไปเมื่อไปถึงระหว่างทางกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็พากันขับมอเตอร์ไซค์มาล้อมรถของนายโดมและเพื่อนๆที่นั่งซ้อนกันมา 3 คน หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการตะลุมบอนกันเกิดขึ้น

เป็นวัยรุ่นพากันรุมทำร้ายนายโดมและเพื่อนและหนึ่งในใช้ปืนยิงมาที่หัวของนายโดม แล้วพากันหลบหนีไปหลังจากนั้นเพื่อนของนายโลมก็ได้นำร่างของนายโดมไปส่งที่โรงพยาบาลขึ้นระหว่างทางนายโดมยังสามารถพูดคุยได้ตามปกติ และยังสามารถโทรไปเล่าเหตุการณ์ให้พี่สาวและค้นหาบ้านฟังได้

  ซึ่งทางเพื่อนของน้องโดมยืนยันว่าไม่รุ้ว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร เพราะกลุ่มคนร้ายแต่งกายมิดชิด มีทั้งหมดประมาณ 10 คน อีกทั้งยังบอกด้วยว่าการที่นายโดม  ถูกยิงที่ศีรษะในครั้งนี้แล้วไม่เสียชีวิตนั้นถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างมากซึ่งหลายคนเชื่อว่าเกิดมาจากการที่นายโดมสร้อยคอที่มีหลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก รุ่นปี 05 ซึ่งเชื่อกันว่ารุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นรุ่นที่ยิงไม่เข้า 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8

ผัววัย 54 ปีใช้เหล็กตีเมียวัย 28 ดับสาเหตุมาจากความหึงหวง

อันนี้เกิดจากความหึงหวงระหว่างสามีและภรรยา สามีอายุ 54ปี และภรรยาอายุ 28 ปีโดยอายุห่างกันประมาณซัก 26 ปีซึ่งภรรยาก็ออกไปทำงาน ไม่ยอมกลับบ้านหลายวันติดต่อกันจึงทำให้สามีวัย 54 ปีสงสัย จึงได้เดินทางไปดักรอภรรยาของตนเองที่หน้าโรงงานที่ภรรยาทำงานอยู่หลังจากนั้นสามีก็ได้เห็นว่าภรรยานั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่โรงงาน

เมื่อเห็นดังนั้นฝ่ายสามีจึงเกิดความโมโหเป็นอย่างมากจึงได้ใช้เหล็กฟาดเข้าไปที่หัวของภรรยาอย่างแรง จึงเป็นเหตุทำให้ภรรยาของเขาเสียชีวิตทันทีซึ่งสามีภรรยาคู่นี้มีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน เด็กกลายเป็นเด็กกำพร้าทันทีเพราะว่าแม่เสียชีวิตแล้วพ่อก็ต้องติดคุกโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในสายของวันที่ 19 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 นี้เองซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าโรงงานทำไอศครีมที่จังหวัดเชียงใหม่ 

         เส้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้ประสานงานให้กู้ภัยเดินทางไปตรวจสอบก่อนและเมื่อไปถึงก็พบว่ามีหญิงสาวอายุ 28 ปี ชายคนดังกล่าวนอนจมกองเลือดอยู่สภาพใบหน้ามีร่องรอยการถูกตี ตอนไปถึงหญิงสาวคนดังกล่าวยังมีสติยังหายใจรวยรินอยู่

ซึ่งนอนอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงงานทําไอศครีมเบอร์กู้ภัยไปถึงก็ได้พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจของเธอ แต่เธอทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นก็คือสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวนั่นเองซึ่งเข้าไม่ได้หนีไปไหนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือใช้ไม้ไปที่หัวของภรรยาจนเสียชีวิตเอง เส้นทางฝ่ายสามีได้บอกว่าได้อยู่กินกับภรรยามานานถึง 6 ปีแต่ช่วงหลังกลับได้ว่าภรรยาคบชู้

เนื่องจากเห็นหลักฐานผ่านทาง Facebook ของภรรยาและน้องๆมาภรรยาไม่ยอมกลับบ้านจึงได้มาดักซุ่มดูอยู่ที่หน้าโรงงานดังกล่าวเมื่อเห็นว่าภรรยานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มากับผู้ชายจึงทำให้เกิดความโมโหจึงได้เข้าไปหาทางภรรยาและชายคนดังกล่าวจนมีเหตุการณ์ทะเลาะเถียงกันเกิดขึ้นแล้วด้วยความโมโหเราจึงมองเห็นเหล็กวางอยู่ตรงข้างๆหน้าโรงงานจึงได้คว้าเหล็กขึ้นมาและนำเหล็กไปทุบตีภรรยานอนแน่นิ่งไปซึ่งภายหลังจึงได้รู้ว่าภรรยาเสียชีวิตจึงได้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมตัว 

      อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการตรวจสอบสาเหตุการทำร้ายร่างกายกันอีกครั้งหนึ่งเพราะว่าทางภรรยาได้เสียชีวิตไปแล้วจึงอาจจะต้องมีการนำตัวชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการที่เราถูกระบุว่าเป็นชายชู้มาทำการสอบปากคำอีกครั้งหนึ่งว่าสาเหตุในการทำร้ายร่างกายกันครั้งนี้เกิดจากการหึงหวงกันจริงหรือไม่ อะไรก็ดีชายวัย 54 ปีที่อ้างว่าเป็นสามีของผู้ตายก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายอย่างแน่นอน

เศรษฐกิจแย่ ทำคนฆ่าตัวตาย 

ที่จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พานทอง ได้รับแจ้งว่าบ้านหลังนี้ คือบ้านเลขที่ 105/26   บ้านจันทร์แสง มีผู้เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตนั่นก็คือคุณสุภาพอายุ 48 ปี

สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ที่ฝั่งคนขับ กรอบรูปแต่งงานและกรอบรูปที่มีรูปภาพของลูกของเขาอยู่ในมือพบว่าเบาะที่นั่งข้างคนขับมีการวางเตาอั้งโล่ ซึ่งที่เท่าไหร่จากการจุดนอกจากนี้ตรงบริเวณคอของคุณสุภาพยังพบเส้นเชือก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงและคนที่มาพบศพคนแรกก็คือภรรยาของเขานั่นเอง

  ซึ่งภรรยาของคุณสุภาพได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วกลับมาถึงบ้านตอน 20:00 นเตือนเมื่อกลับมาถึงบ้านเขาหาสามีไม่เจอแต่เมื่อมองเข้าไปในรถแล้วเห็นเงาเหมือนสามีนั่งอยู่ในรถ ก็เลยเข้าไปเคาะกระจกรถเรียก แต่ปรากฏว่าสามีไม่ยอมเปิดประตูรถทางด้านภรรยาจึงได้ทำการเปิดประตูรถเข้าไปเองแล้วก็ไปเจอว่าทางสามีนั่งตัวแข็งอยู่ในรถแล้ว ก็คือเสียชีวิตแล้ว

          นักข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านผู้เสียชีวิตพบว่า มีการนำศพขอผู้เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดหนองตำลึง ที่จังหวัดชลบุรี โดยทางผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งตอนแรกที่เข้าไปเห็นศพสามีคิดว่าสามีนอนหลับ แต่เมื่อจับตัวดูถึงรู้ว่าตายแล้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากที่สามีได้มีการทำธุรกิจแล้วประสบปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด ล่าสุดก็มาทำธุรกิจขายหนูนาแต่ก็ไม่รอดอีก

ซึ่งตั้งแต่ทำธุรกิจขายหนูนามาก็ขาดทุนมาโดยตลอดทำให้สามีรู้สึกเครียดโดยส่วนตัวแล้วทำตัวภรรยาเองและสามีมักจะไม่ค่อยได้คุยกันเพราะว่าภรรยามีงานประจำที่ทำอยู่จะกลับมาถึงบ้านก็ค่ำแล้วจึงไม่ค่อยรู้สาเหตุของปัญหาของสามีมากสักเท่าไหร่แต่จากการที่รู้เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจของสามีไม่ค่อยประสบความสำเร็จตัวภรรยาเองก็ได้ปลอบใจไม่ให้คิดมาก โดยทางด้านภรรยาคิดว่าสาเหตุที่สามีฆ่าตัวตายนั้นน่าจะมาจากเรื่องของการมีหนี้สินเป็นหลักซึ่งสามีน่าจะมีหนี้สินทางด้านของบัตรเครดิตและอาจจะไปทำการกู้เงินมาทำธุรกิจซึ่งอาจจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าดอกเบี้ยจนทำให้สามีคิดสั้นและฆ่าตัวตาย

อย่างที่เห็นไม่มีตอนนี้ภรรยาไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย เพราะเข้าใจว่าสามีมีหนี้สินเป็นจำนวนหลายแสนบาทน่าจะมีปัญหาเรื่องของการหมุนเงินไม่ทันขอสามีทำธุรกิจหลายอย่างแล้วช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีด้วยก่อนหน้านี้เขาเคยเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกแต่ก็รักษามาจนหายซึ่งคิดว่าครั้งนี้เขาก็คงเครียดแล้วตัดสินใจไม่ได้จึงได้ตัดสินใจกับชีวิตตัวเองคนเดียวคิดว่าเขาน่าจะฆ่าตัวตายเพราะความคิดชั่ววูบเท่านั้นเอง 

เจอแม่ค้าขายหน้ากากอนามัยปลอม

เจอแม่ค้าขายหน้ากากอนามัยปลอม เจอคนจริงแจ้งตำรวจจับ

    เนื่องจากในสภาวะเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19ยังมีปัญหาเรื่องปากท้องปัญหาเรื่องการตกงานปัญหาอากาศมีฝุ่นพิษเรียกได้ว่าตอนนี้ประเทศไทยมีแต่ปัญหาปัญหาแล้วก็ปัญหาซึ่งทำให้ประชาชนต่างก็ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากและถึงแม้ว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากเชื้อโรคจากฝุ่นละออง

จากสภาวะเศรษฐกิจที่มันดิ่งลงเหวอยู่ในขณะนี้แต่ตอนนี้คนไทยด้วยกันเองก็ยังมาทำร้ายกันเองด้วยการนำของปลอมออกมาจำหน่ายอย่างเช่นรายงานข่าวจากสำนักข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าเธอไปซื้อหน้ากากอนามัยมาใช้แล้วเจอแม่ค้านำของปลอมมาขายให้แล้วเมื่อได้ทำการต่อว่าแม่ค้าคนดังกล่าวไปแม่ค้ากลับไม่รู้จักสะทกสะท้านและไม่รู้สึกว่า

สิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเป็นสิ่งผิดโดยปัจจุบันคนเราเริ่มรู้สึกเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น เมื่อถูกจับได้ว่าทำความผิดก็อ้างเรื่องของปากท้องของตนเองโดยที่ไม่คิดถึงเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นจะเป็นการทำร้ายคนอื่นมากแค่ไหน

เพราะอย่างเช่นข่าวที่มีคนนำหน้ากากอนามัยปอมาขายนี้ลูกค้าซื้อไปใช้งานลูกค้ายอมเสียเงินในการซื้อหน้ากากอนามัยให้กับแม่ค้าแต่คุณภาพของสินค้ากลับได้มาไม่ตรงตามที่ต้องการนั้นสินค้าก็จะไม่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้รวมถึงไม่สามารถที่จะป้องกันเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ขณะนี้ได้ 

   สุดท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หญิงสาวที่ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ถอนแจ้งความเพราะรู้สึกสงสารป้าที่ขายหน้ากากอนามัยแต่ก็ได้ตื่นแกว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันไม่ถูกต้องและไม่ควรกระทำอีกจึงเชื่อหรือเปล่าว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยป้าคนดังกล่าวออกมาเธอก็ต้องนำหน้ากากอนามัยปลอมที่เธอได้มีการลงทุนไปแล้วหลายบาทมาจำหน่ายอีกแน่นอนถ้าหากว่าเธอคิดได้ตั้งแต่แรกเธอคงไม่นำหน้ากากอนามัยปลอมมาขายให้กับคนอื่นแล้วเมื่อถูกจับได้แทนที่เธอ

จะขอโทษกับลูกค้าต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเธอกลับไม่ได้รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปนั่นแสดงว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นเช่นไรแต่เธอก็ยังทำดังนั้นสิ่งที่ทำให้ในตอนนี้สำหรับประชาชนทั่วไปอย่างเราก็คือการเลือกดูสินค้าให้แน่ใจซะก่อนว่า

สินค้านั้นมีคุณภาพก่อนที่จะมีการตกลงตัดสินใจซื้อสินค้านั้นไป เพราะถ้าหากเราต้องใช้สินค้าปลอมได้คุณภาพก็เท่ากับเราเสียเงินฟรีแต่เราก็ยังต้องเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือเสี่ยงที่จะต้องดูดเอาควันพิษ PM 2.5 เข้าปอดอยู่ดี 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  sagame

ปิดห้างฆ่าเชื้อทำความสะอาดนาน 3 วัน

เดอะมอลล์ บางแค ต้องปิดห้างฆ่าเชื้อทำความสะอาดนาน  3 วันเหตุเพราะสาวเพิ่งกลับจากเกาหลีมาเดินเที่ยวไม่แคร์โลก

                  ช่วงนี้ใครใครต่างก็หวาดกลัวการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กันทั้งนั้นต่างก็พากันระมัดระวังตัวเอง ไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยงที่อาจจะทำให้ติดเชื้อไวรัสได้ ดังนั้นทางห้างสรรพสินค้าและร้านค้า โรงแรมต่างต่างจึงได้พยายามหามาตรการออกมาเตรียมพร้อมกับการรับมือในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีคนบางประเภทที่ไม่ในใจโลก

คิดอยากทำอะไรก็ทำจนกลายเป็นการสร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันมาจากทาง The mall สาขา บางแค ว่าเมื่อวันที่ 5เดือนมีนาคม  ปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมาได้มีลูกค้าที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีเดินทางมาใช้บริการของห้างเดะมอลล์ สาขาบางแคจริง

หลังจากที่มีการตรวจสอบแล้ว ดังนั้นในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 5 มีนาคม หลังจากที่ทางห้างรู้เรื่องก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำน้ำยาฆ่าเชื้อเข้ามาทำความสะอาดทุกจุดของห้างทั้งหมด รวมถึงประกาศให้ร้านค้าทุกร้านทีทางลูกค้าสาวคนดังกล่าวได้เข้าไปใช้บริการให้ปิดร้านประมาณ 3 วันเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

รวมถึงพนักงานคนไหนที่ปฎิบัติงานในวันดังกล่าวและได้พบและบริการหญิงสาวคนดังกล่าวให้หยุดมาทำงานทุกคน รวมถึงให้กักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการติดเชื้อแล้วค่อยกลับมาทำงาน

ซึ่งทาง The mall สาขา บางแค ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางห้าง The mall สาขา บางแค เข้าใจสถานการณ์ของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างดี ดังนั้น ทางห้างจึงจะทำตามกฎอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการรักษาความสะอาดเพื่อที่ลูกค้าของห้าง The mall สาขา บางแคทุกคนจะได้มั่นใจได้ว่า

ลูกค้าที่มาเดินห้างจะปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสแน่นอน และทาง The mall สาขา บางแค ยังขอความร่วมมือกับกลุ่มคนที่เดินทางมาจากการไปประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงว่าให้กักตนอยู่ที่บ้านก่อนเป็นเวลา  14 วัน อย่าเพิ่มมาเดินห้างเลย 

           จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เราจะเห็นได้ว่าคนที่เดินทางกลับมากจากประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งที่เกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น ต่างก็ไม่มีจิตสำนึกที่จะรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน

แต่ทุกคนต่างก็ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกปกติเดินทางไหนมาไหน จนทำให้หลายชีวิตต้องได้รับความเดือดร้อนเพราะต้องมาถูกกักตัว 14 วันแทนที่จะได้ทำงานหาเงิน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นรายวันเลยก็ว่าได้ รัฐบาลควรหามาตรการป้องกันกลุ่มคนเหล่านี้สักที

 

สนับสนุนโดย  9luck